เสียดาย ถ้าไม่ได้พิชิตภูกระดึง

"ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่พิชิตภูกระดึง" ยังเป็นคำที่มีความขลังอยู่เสมอ

    "ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่พิชิตภูกระดึง" ยังเป็นคำที่มีความขลังอยู่เสมอ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องใช้แรงในการเที่ยวอยู่มากพอสมควร จึงเป็นเหตุผลว่า คนที่เคยพิชิตภูกระดึงได้แล้ว จะเอามาคุยทับถมกันเพื่อนๆที่ยังไม่เคยไปได้ครับ

 

[IMAGE1]

     อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ใน อ.ภูกระดึง จ.เลย เป็นภูเขาหินทราย ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล  1,316 เมตร และมียอดตัดที่กว้างถึง 60 ตารางกิโลเมตร แต่ความขลังอยู่ที่ นักท่องเที่ยวทุกคน จะต้อง "เดิน" ขึ้นเขา ที่ใช้ระยะทางเดินกว่า 9 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็นเดินไต่เขา 5.5 กิโลเมตร และเดินทางราบ เพื่อไปสู่ที่พักอีก 3.6 กิโลเมตร รวม 9.1 กิโลเมตร ซึ่งถ้าใครที่เคยไปเที่ยว จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เหนื่อยมาก โหดมาก" เพราะเส้นทางที่เดินขึ้น จะเป็นทางไต่เขาเกือบตลอดทาง อาจมีบางช่วง ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้สร้างบันได เพื่ออำนวยความสะดวก แต่ส่วนใหญ่ ยังเป็นเส้นทางที่เดินลำบากแบบธรรมชาติเหมือนเดิม

 

[IMAGE5]

 

โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะจ้าง "ลูกหาบ" ซึ่งเป็นชาวบ้านแถวนั้น ช่วยแบกสัมภาระส่วนตัวขึ้นไปให้ โดยคิดราคาตามน้ำหนักของ ที่กิโลกรัมละ 30 บาท แต่มีบางคนบ้างที่แบกไปเอง (เพื่อนผมมี 1 คน แต่ขึ้นได้ไม่ถึงครึ่งทาง บ่นว่า ไม่น่าเลย)

 

[IMAGE2]

 

ระหว่างทางเดินขึ้นเขา จะมีที่พักอยู่ตลอดทาง แบ่งเป็น ซำแฮก, ซำบอน, ซำกกกอก, ซำกอซาง, ซำกกหว้า, ซำกกไผ่, ซำกกโดน, ซำแคร่ จนถึงหลังแป หรือยอดเขานั่นเอง โดยแต่ละซำ จะมีร้านอาหารและห้องน้ำ ให้เราได้พักเหนื่อยตลอดทาง ของนิยมที่สุดคือ แตงโม ที่ช่วยเรียกพลังให้เดินต่อได้ 

 

[IMAGE3]

    แหล่งท่องเที่ยวบนภูกระดึง มีหลายที่ ที่น่าสนใจ แต่ที่นิยมมากที่สุด คือ ผาหล่มสัก หน้าผาที่มีก้อนหินยื่นออกไป เป็นจุดที่ไปดูพระอาทิตย์ตกดินสวยๆกัน แต่อีกที่ ที่ไม่อยากให้พลาดคือ ป่าปิด ซึ่งเป็นป่าที่ต้องให้เจ้าหน้าที่อุทยานเป็นคนพาไปเท่านั้น เพราะเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างอันตราย และไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าไปเดินเอง ในป่าปิด เราจะได้เจอกับน้ำตกสวยๆ ทั้ง น้ำตกผาน้ำผ่า หรือ น้ำตกขุนพอง ที่มีความสวยงาน และยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ รวมทั้งยังอุดมไปด้วย ต้นเมเปิ้ล ที่จะผลิใบสีแดงเต็มไปทั้งป่า สวยงามแบบที่ที่อื่นไม่มี 

 

[IMAGE4]

    ภูกระดึง จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า ตั้งแต่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม จากนั้นจะปิด เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นฟูตัวเอง รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยจากอันตรายเนื่องจากเป็นหน้าฝนด้วย และที่ต้องระวังอีกก็คือ ทาก ซึ่งจะชุมในช่วงที่บนภูมีความชื้นมากๆ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ช้าง เพราะบนภูกระดึง จะมีช้างป่าอยู่หลายฝูง และค่อนข้างดุ ดังนั้นเราควรจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ไม่ออกนอกเส้นทาง ที่อาจจะเป็นเส้นทางที่พาไปเจอช้างป่าก็ได้ 

 

[IMAGE6]

    ภูกระดึง ถึงแม้จะใช้พลังงานในการเที่ยวมาก แต่ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เราสามารถพิชิตได้ มันจะเป็นความภูมิใจ ที่เราสามารถเอาไปคุยได้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเลยนะครับ 

Earthpark02