อิจฉาชาวมะกันเมื่อ Mazda USA เผยสเปค Mazda CX-3 ก่อนพบตัวจริงช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

Mazda USA เผยสเปคออฟชั่นและเครื่อยนต์คร่าวๆของ Mazda CX-3 เวอร์ชั่นอเมริกา

 

 

 

นับเป็นรถ Crossover ขนาดเล็กที่แฟนๆ Zoom-Zoom ชาวไทยต่างตั้งตารอคอยว่าจะปรากฏตัวในช่วงเวลาไหนสำหรับ Mazda CX-3 เพราะตอนนี้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ ได้จำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนมาเลเซียเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกสองเดือนข้างหน้า

และตอนนี้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทสล่าสุดที่จะเตรียมเผยโฉม Mazda CX-3 โดยเผยทั้งออฟชั่นและสเปคเครื่องยนต์ ให้ชาวมะกันได้ยั่วน้ำลายกันก่อนด้วยรูปลักษณ์ภายนอกออกแบบตามหลัก Kodo Design ทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านท้าย ให้มีความโดดเด่นโฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใครและเป็นเทรนด์การออกแบบสำหรับรถ Mazda ทุกรุ่น ออฟชั่นภายนอกมีให้ครบเช่น ไฟหน้า ไฟตัดหมอกแบบ LED กรจะกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวล้ออัลลอยด์ขนาด 16 และ 18 นิ้ว ตามความชอบของลูกค้า กล้องมองหลังเพิ่มความสะดวกในการถอยหลัง หลังคามูนรูฟและที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor ในรุ่นท็อปสุด

ภายในสะดวกสบายกับอุปกรณ์มาตรฐานทั้งพวงมาลัยพาวเวเอร์ปรับระดับสูงต่ำยืดหดได้ พร้อมระบบล็อควมเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control เบาะหลังตอนสองสามารถพับได้แบบ 60/40  กล่องคอนโซลกลาง พร้อมเครื่องเล่นวิทยุพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วทำงานร่วมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ Mazda Connect พร้อมลำโพงคุณภาพจากBose 7ตัว เบาะนั่งมีทั้งวัสดุผ้ากำมะหยี่กับวัสดุกึ่งหนังแท้พร้อมระบบอุ่นเบาะในรุ่นท็อปสุด และเครื่องปรับอากาส Auto ในรุ่นท็อปสุดเช่นกัน

เครื่องยนต์ของ Mazda CX-3 เวอร์ชั่นอเมริกานี้จะมีเพียงแค่เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาดเดียว 2.0 ลิตร ที่ให้แรงม้าสูงสุด 146 แรงม้า แรงบิด 197 นิวตันเมตรทำงานร่วมกับเกียร์ออโต้ SKYACTIV-Drive 6 สปีดและมีให้เลือกทั้งรุ่นขับหน้า และระบบขับสี่แบบ AWD

ออฟชั่นความปลอดภัยหรือ i-ActivSense สำหรับ Mazda CX-3 เวอร์ชั่นอเมริกา มาแบบจัดเต็มทั้ง ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติที่ควบคุมด้วยระบบเรดาร์หรือ Mazda’s Radar Cruise Control system ระบบไฟหน้า AFS ปรับองศาไฟหน้าตามโค้ง ระบบ RVM คอยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมจุดที่สายตาผู้ขับมองไม่เห็น ระบบ SCBS ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในเมื่อพบสิ่งกีดขวางในเวลากลางคืนกับขับขี่ในชีวิตประจำวัน และ ระบบ LAS ช่วยผู้ขับขี่รักษาเลนที่ขับเพื่อไม่ให้ขับออกนอกเลน

Mazda CX-3 เวอร์ขั่นอเมริกาจะมีรุ่นย่อยถึง 3 รุ่น ตั้งแต่รุ่น Sport รุ่น Touring และรุ่นท็อปสุด Grand Touring หรือ GT ราคาค่าตัวทาง Mazda USA ยังไม่ได้แจ้งอย่างเป็นทางการแต่คาดว่าจะแจ้งพร้อมกับการเปิดจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ส่วนทางเมืองไทยคาดว่าช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ พบตัวจริงเสียงจริงกันได้อีกไม่นาน

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

 

[GALLERY894]