Hands on : Honda HR-V 1.8 EL ....ที่สุดของคำว่าใช่!!! กากบาทไว้เลยว่าคันนี้ต้องโดน

ในที่สุดหลังเฝ้ารอมานานก็ได้เวลาเสียทีกับการทดสอบรถยนต์อเนกประสงค์ที่หลายคนเฝ้ารอ Honda HR-V จะเด่นสะดุดตาแค่ไหน...เชิญพบบททดสอบได้เลย

 

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

 

รถในฝัน ....

 

เราหลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ เราหลายคนคิดถึงคำนี้ รถในฝันของใครหลายคนมีความแตกต่างกันไป บ้างต้องเป็นรถยนต์สมรรถนะสูง ชนิดที่สาวๆนั่งแล้วเสียวซ่านยอมพลีกายทอดร่าง บ้างเป็นรถยนต์ที่มาพร้อมความล้ำสมัยสุดติ่ง แต่กับคนทั่วไปล่ะ!!! รถในฝันคืออะไร คุณคิดว่าอย่างไร ลองตอบคำถามดูในใจ

คำว่า “รถยนต์ในฝัน” เป็นสิ่งที่เราหลายคนไม่เชื่อว่ามันน่าจะอยู่ในรถยนต์ราคาถูก ด้วยเราหลายคนมองรถยนต์ราคานับสิบล้าน ที่บางคน หรือกระทั่งผู้เขียนอาจจะเรียกว่า หาใช่มีปัญญาจะคบหาไม่ แต่ในความจริงแล้ว รถในฝัน.... อาจจะเป็นโจทย์ที่ง่ายกว่านั้น และ วันนี้ทีมวิศวกร  Honda   ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว แนวคิดรถในฝัน จากค่ายพลังแพ่งความฝันนั้น ...เป็นไปได้ในราคาที่ไม่ต้องแพงไปนัก

ตั้งแต่เปิดตัวออกมาที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีหลาย จนกระทั่งมาถึงบ้านเรา เชื่อเลยว่าคนจำนวนไม่น้อยต่างมองรถยนต์  Honda HR-V   ใหม่ และจับตามองมาโดยตลอด จนกระทั่งมันมาขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัวเมื่อวันที่   17  พฤศจิกายน ที่ผ่านมา  Honda HR-V   ใหม่ ก็เป็นน้องใหม่ในกลุ่มอเนกประสงค์คอมแพ็คที่จัดการสยบคู่แข่ง ... จนมาถึงนาทีนี้ คนในฮอนด้าพูดแบบแอบแซวขำๆว่า รถตัวจี๊ดแห่งปี

การมาถึงของ   Honda HR-V   สร้างสีสันในตลาดที่แตกต่างไม่เหมือนใครด้วยแรงความนิยม แบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จากตอนแรกที่ตั้งเป้าว่าทั้งปี น่าจะได้เพียงราวๆ  20,000 คัน แต่เอาเข้าจริง ตอนนี้แรงไปมาก จนถึง   7,000 คัน เลยทีเดียว

การพบกันครั้งนี้ ระหว่างเราและ   Honda  HR-V   ใหม่ ถือเป็นครั้งที่สามตั้งแต่เปิดตัวออกมาทำตลาด ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสขยับนิดชิดใกล้อเนกประสงค์คันงานที่หลายคนกำลังเตรียมหมายปองกำลังจะไปสู่ขอกัน

สาวงามนาม  Honda HR-V   คันนี้เป็นผลงานสำคัญชิ้นโบว์แดงของ   Honda  ขนาดที่พวกเขาวางไว้ว่ามันจะเป็นรถยนต์ที่วางจำหน่ายทั่วโลกในอนาคต  รองจาก   Honda Civic , Honda Accord  และ   Honda CR-V   ทำให้แน่นอนว่า   Honda  จะต้องใส่มาเต็มเหนี่ยวในเจ้ารถยนต์คันนี้

แนวทางการออกแบบภายนอก   Honda HR-V   ใหม่ เรียกว่าเป็นสิ่งที่สะกดให้หลายคนหลงมนต์เสน่ห์รถยนต์นั่งคันนี้ที่มีตัวตนในการขับขี่มีปัจเจกและความลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ มนตรานั้น คือการให้แนวทางการออกแบบที่ผสานสองคุณลักษณะเอาไว้ด้วยกัน

ด้านหนึ่งมันคือรถยนต์   Minivan  ที่เปี่ยมด้วยความอเนกประสงค์ อีกด้านมันยังมีตัวตนของความเป็นสปอร์ต  Coupe  แต่ทั้งสองถูกทีมออกแบบจับมันมาผสมกันในแนวคิด   Dynamic Cross solid  ซึ่งทางทีมออกแบบวางให้ด้านบนของรถ  Honda HR-V ดึงดูดด้วยความสปอร์ตตัวตน เส้นสายหลังคาดูคล้ายกับ รถยนต์สปอร์ตคูเป้ แต่พร้อมกันในตัวตนรถยนต์คันนี้ยังต้องดูมีความแข็งแกร่งและดูดีไปพร้อมกัน

ผลของการทำงานอย่างหนักในแนวคิดที่ผสานกันอย่างลงตัว  Honda HR-V   ใหม่ กลายเป็นรถอเนกประสงค์ที่น่าดึงดูดในตัวตน เริ่มตั้งแต่ทางด้านหน้าของรถที่พกความดูดีมาเต็มเปี่ยม ตั้งแต่ ระบบกระจังหน้าคงเอกลักษณ์ของ  Solid wing face  แต่เทียบกับรุ่นอื่นที่เราเคยเห็นมา ในรุ่นนี้มีความแตกต่างด้วยการให้ความดุดันด้วยกระจังหน้าสีดำ

รวมถึงกันชนหน้าที่เป็นสปอร์ตลงตัวคลุกเคล้าเข้ากัน มันเป็นเสน่ห์ทำให้เรานึกถึงตัวหรู  Honda Odyssey ทำให้ตัวตนของ  Honda HR-V   มีคุณค่ามากขึ้นตั้งแต่แรกเห็น รวมถึงไฟหน้าแบบ  LED  รวมถึงมาพร้อมไฟขับขี่กลางวันในโคมเดียวกันสร้างความลงตัวที่มากกว่า แม้อาจจะมีมาให้แค่ในตัวท๊อปและรองท๊อปเท่านั้นเอง

เส้นสายด้านข้างตลอดคันเน้นความเป็นรถสปอร์ตที่เห็นได้อย่างชัดเจน ตอบทุกดีเอ็นเอในตัวตนให้มีความลงตัวสำหรับวัยรุ่นหนุ่มสาวช่วยให้รถดูเยาว์วัย ถ้าไม่สังเกตให้ดีการออกแบบที่ใช้ความสปอร์ตมาตอบโจทย์ จะทำให้คุณนึกว่านี่เป็นรถยนต์นั่งสองประตู ด้วยการซ่อนมือจับไว้แนวเดียวกับกระจกหลัง รวมถึงรายละเอียดคมสันมากขึ้นเพื่อให้ดูลุคสปอร์ต  ลงตัวในการขับขี่กับล้ออัลลอยขนาด 17  นิ้ว กว้าง 7  นิ้วมาพร้อมยาง Dunlop Sp Sport  maxx ขนาด 215/55 R 17 ซึ่งยางรุ่นนี้เป็นยางสมรรถนะที่มักพบได้ในสปอร์ตหรูในตลาดพรีเมี่ยม

และท้ายสุดบั้นท้ายสร้างความสปอร์ตและดูแข็งแกร่ง ด้วยชุดไฟท้าย  LED   แบบ   Tube  แต่จะว่าไปไฟท้ายของ   Honda   HR-V   ที่พยายามออกแบบ  ให้เป็นลูกศรชี้ออกด้านนอกของตัวรถ กลับทำให้เรารู้สึกว่าถ้าไฟเลี้ยวที่เป็นติ่งลงมาสไตล์โคมไฟไสแอบเปื้อนสีแดงนั้น กลายเป็นความไม่สมบูรณแบบ มันดูไม่ลงตัวแอบขัดตาในความรู้สึกที่จริง มันน่าจะดูดีกว่านี้ ถ้าเป็นสีแดงทั้งโคม หรือไม่สำหรับใครที่คิดจะซื้อรถคันนี้ไปใช้ ผมว่าแอบพ่นหรือหาสติ๊กเกอร์มาติดเป็นโคมดำ ไฟท้าย  Honda HR-V จะดูดีมากกว่าอีกถม และ จะว่าไป ถ้าคุณมองเฉพาะในส่วนของไฟเบรกด้านบน อีกครั้งที่มันทำให้เรานึกถึง   Honda Odyssey

ได้เวลาเตรียมออกเดินทางเราเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสาร พบการออกแบบที่มีความลงตัวและคลุกเคล้าเข้ากันดีกับภายนอกที่เน้นในความหรูหราทันสมัย และยังดูสปอร์ตไปพร้อมกัน

Honda   เปิดเผยว่า  Honda HR-V   ใหม่ยังคงใช้พื้นฐาน   Exciting H Design  หรือพูดง่ายๆว่า คุณต้อง ว้าว!@@ ทันทีที่ได้เห็นหรือสัมผัสการออกแบบ ซึ่งทีมออกแบบยังจัดองค์ประกอบในแนวคิดการออกแบบภายใน “Expansive Cockpit” และจัดวางการใช้งานในแง่ต่างๆ ระหว่างการขับขี่ให้ง่ายขึ้น ทีมออกแบบเรียกมัน   Satellite like cock pit   

ทีแรกเราก็นึกไม่ออกจนกระทั่งเริ่มนั่งบน  Honda HR-V  ใหม่มือกุมพวงมาลัย ตรมองตรงข้างหน้า ก็ถึงบางอ้อว่าทีมออกแบบพยายามทำให้ทุกอย่างลงตัวในการใช้งานอย่างไม่น่าเชื่อ  

คอนโซลหน้าสองชั้นเป็นเอกลักษณ์มาพร้อมดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตในการขับขี่  แต่มองกวาดตาไป ทุกอย่างอยู่ในจุดที่เข้าถึง รวมถึงบนพวงมาลัยมัลติฟังชั่น   3  ก้าน ไปจนถึงตัวคอนโซลกลางที่จัดวางตำแหน่งเบรกมือไฟฟ้าและคันเกียร์ไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ ในแบบฉบับที่รถยนต์สุดหรูพรีเมี่ยมควรจะเป็น

มิติตัวถัง   Honda HR-V   มาพร้อมความยาว  4,294 มม. กว้าง 1,772  มม.  และสูง 1,605 มม.  ตอบโจทย์การขับขี่ด้วยฐานล้อยาว  2,610  มม. เติมเต็มความสามารถการใช้งาน ซึ่งทางทีมออกแบบ เรียกมันว่า  Smart Crossover package  

ใส่ใจทุกรายละเอียดในการใช้งานให้ลงตัวมากขึ้น ตั้งแต่เบาะนั่งหน้าที่ปรับระดับให้ตำแหน่งท่านั่งสูงกว่ารถเก๋งของค่ายในกลุ่มเดียวกันอีก  100 มม. ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดียิ่งขึ้น รวมถึงห้องสัมภาระท้ายที่ดีพอต่อการขนอุปกรณ์ต่างๆมีความจุถึง   565  ลิตร พอที่จะเก็บถุงกอล์ฟได้สามใบ

ที่สำคัญ Honda HR-V ใหม่ ยังสามารถตอบโจทย์มากขึ้น ด้วยความสามารถที่มีความหลากหลายในการขน สามารถปรับด่าทแบบตามต้องการ ไม่ว่าจะ   Tall mode , Long mode   และ  Utility mode

แต่กระนั้นจากการลองสัมผัสในเรื่อการโดยสาร  Honda HR-V ก็ไม่ได้ด้อยลงไปในการใช้งาน โดยเฉพาะการขึ้นลงที่สะดวกมากขึ้นที่ประตูหน้า คุณจะไม่รู้สึกว่านั่งจุมปุ๊กลงไปที่เบาะ แต่กลับได้ความรู้สึกที่พอดีต่อการขึ้นและลง แต่จะว่าไปน่าเสียดายนะที่เบาะนั่งในตัวท๊อป Honda HR-V  EL  นั้นยังกลับเป็นระบบปรับด้วยมือทั้งหมด ทั้งที่น่าจะใส่เบาะปรับไฟฟ้ามาให้ ซึ่งเราแอบหวังว่าจะเห็นมันรุ่นปรุงโฉมต่อไป ส่วนตัวเบาะนั่งคู่หน้าอออกแบบมาได้ลงตัวเหมาะสมต่อการใช้งานดีอยู่แล้ว

ความรู้สึกเดียวกันนี้ยังสัมผัสได้ถึงการเข้าออกห้องโดยสารตอนหลัง แถมตัวเบาะนั่งตอนหลังยังสามารถเอนได้อีกจังหวะเพื่อเพิ่มความสบายในการโดยสาร ทำให้ท่านั่งผู้โดยสารอยู่ในท่าที่ดีนั่งสบายในระหว่างการเดินทาง

เท่าที่ลองสัมผัสเป็นระยะทางสั้นๆ เห็นได้ชัดว่าเบาะนั่งตอนหลังมีความลงตัวเรื่องท่านั่งอย่างแท้จริง แต่กระนั้นต้องเรียนตามตรงว่าการออกแบบตัวเบาะนั่งของฮอนด้ายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก ด้วยพื้นที่พนักผิงหลังไม่ได้มีจุดที่โอบกระชับมากมายนัก ทำให้บนหนทางที่อุดมด้วยโค้งแบบเส้นทางเขาใหญ่ในการทดสอบครั้งนี้  เรากระเด็นกระดอนไปมาพอสมควรในการทดลองโดยสารตอนหลังสั้นๆ

การทดสอบนั่งตอนหลัง  Honda HR-V

อาจจะเพราะว่า  Honda HR-V   ใหม่นั้น มีฐานล้อไม่ยาวนัก และตำแหน่งคนนั่งตอนหลังถูกวางเหนือตำแหน่งฐานล้อ ทำให้แรงฉุดและแรงเหวี่ยงอยู่ตรงนั้นพอดี และแม้ว่าคุณจะนั่งได้อย่างสบายในการรับบทเป็นผู้โดยสาร  ทั้งพื้นที่วางขา ท่านั่ง ความนุ่มนวลของตัวเบาะทั้งตัวรองนั่งและพนักผิงหลัง แม้ว่าจะเป็นชุดเบาะที่สามารถปรับพับในอัตรา  60/40   ได้

แต่ท้ายที่สุดแล้วในเส้นทางที่อุดมด้วยโค้งมันอาจไม่ดีอย่างที่คิด ด้วยผู้โดยสารถูกพาไปนั่งบนจุดแรงเหวี่ยงเลยก็พอจะพูดได้ นั้นทำให้คุณกลายเป็นเหยื่อของความสนุกสนานของผู้ขับขี่ที่อาจจะเมามันส์ในการใช้ชีวิตหลังพวงมาลัย

ลองจินตนาการถึงคนขับที่มันส์สุดเหวี่ยงเปรียบดั่งพวกเขาเร้าร้อนท่ามกลางเพลงร็อคแอนด์โรล์บนเส้นทางภูเขาที่มีโค้งจำนวนมากคอยต้อนรับ พวกเขาใช้คันเร่ง พวกเขาใช้เบรก และ คุณนั่งอยู่กลางวงดนตรีที่เร้าร้อนเผ็ดลึก คงไม่ต้องบอกว่าเอาเข้าจริง มันก็คงไม่น่าพิสมัยเช่นกัน ในการนั่ง Honda HR-V ไปผ่าทางเขา นั่น คือที่เรารู้สึกได้ใน  10  นาทีของการเดินทางสั้นๆ ในตำแหน่งเบาะนั่งหลัง แต่จะดีกว่านี้ถ้าเบาะหลังมีโหนกนูน ช่วยการเบียดช่วงไหล่มากกว่านี้ จับคุณกระชับไปกับตัวรถในระหว่างการเดินทาง  

ทว่าสิ่งที่ขอชมเชยเลยคือการเก็บเสียงในห้องโดยสาร ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่ฮอนด้า ติดตั้งสิ่งที่เรียกว่า  underbody  หรือแผ่นบังลมใต้ท้องรถมาให้ใน Honda HR-V ช่วยให้ตัวรถมีความลงตัวในการขับขี่มากขึ้น ลดเสียงรบกวนได้มาก เช่นเดียวกับการทำให้รถมีหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดี และท้ายสุดห้องโดยสาร  Honda HR-V  ใหม่ใช้วัสดุคุณภาพดีทีเดียว

ใต้ฝากระโปรง   Honda  แนะนำเครื่องยนต์  4  สูบแถวเรียงแบบกระเดื่องกดวาล์วเดี่ยวขนาด 1.8  ลิตรเข้ามาประจำการ มันยังมาพร้อมเทคโนโลยี I vtec   ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

เครื่องยนต์บล็อกนี้จะเรียกว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ขุนเอามาจากรถยนต์   Honda Civic รุ่น  1.8  ก็คงไม่ผิดนักด้วยตัวตนการวิศวกรรมที่ดีอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว ไม่ว่าจะกำลังที่สามารถทำได้สูงสุด   141  แรงม้า ที่  6,500 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุด   172  นิวตันเมตรที่   3,400 รอบต่อนาที  แถมยังรองรับพลังงานทางเลือก   E85  ได้อีกด้วยทำให้ มันวิเศษมากขึ้น ในการเป็นเครื่องยนต์บล็อกกลางที่ให้ความคุ้มค่าในการขับขี่

ในซีดานคอมแพ็คมันอาจจะมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ  5 สปีดที่ให้ความสนุกในการขับขี่มากกว่า  แต่ใน Honda HR-V เจาขุมพลังบล็อคนี้มันตอบโจทย์ด้วยชุดเกียร์  CVT   ที่ให้ความแตกต่าง แน่นอนมันไม่น่าแปลกใจเท่าไรที่รู้หรือจะบอกตรงๆว่า มันมาจากตัวตนของรถยนต์ซิตี้คาร์ ทั้ง   Honda jazz   และ   Honda  City  ซึ่งอาจจะขับสนุกไม่เท่าในการขับขี่ ทว่าในระหว่างการเดินทาง ก็ให้การขับขี่ที่เร้าใจได้เหมือนกัน

ชุดเกียร์  CVT   เองมีข้อดีในการทำงานที่สำคัญ คือมันตอบสนองได้อย่างรวดเร็วในการขับขี่ ชุดเกียร์ง่ายและคล่องมาก ยิ่งจากการสัมผัสเกียร์ของ   Honda  มาหลายครั้งหลายคราว การที่พวกเขาตัดสินใจไม่ได้ใช้ชุดเกียร์สหกรณ์รถเล็กจาก jatco  ทำให้บุคลิกของการขับขี่ไม่เหมือนใคร

แรงกำลังในฮอนด้านั้นมาเร็วและเร้าใจ หลับตาในสมองแล่นไปถึงตั้งแต่  Honda City  , Honda Jazz   จรดยัง Honda Mobilio ที่ทั้งหมดสร้างอัตราเร่งที่ประทับใจ

แม้ว่าการทดสอบ  Honda HR-V จะเกิดขึ้นบนเส้นทางสองเล่นสวนเสียมากกว่าในวันนี้ ด้วยเส้นทางที่เรียบง่ายถนนที่ตัดจาเขาใหญ่ไปวังน้ำเขียว ซึ่งแน่นอนว่าเราอาจจะยังไม่สามารถตอบท่านได้มากในเรื่องของการใช้ความเร็วในทางยาวมากมายนัก

ทว่าหนทางแบบนี้สิ่งที่โดดเด่นขึ้นมาในทันที่เรามานั่งหลังพวงมาลัยของ  Honda HR-V  มันเป็นเรื่องของการตอบโจทย์การเดินทางที่เร้าใจ คันเร่งของรถตอบสนองอย่างดีเยี่ยมจนประทับใจ สามารถเร่งแซงได้อย่างมั่นใจในทุกจังหวะ แม้ว่า   CVT   เอง  จะมีธรรมชาติที่ต้องเข้าใจเรื่องจังหวะเกียร์ก่อนบ้างในช่วงแรก

แต่ด้วยการขับเกียร์ชุดนี้มาหลายครั้งหลายคราว ทำให้เราสามารถจูนกับมันจิตใจตรงกันได้ง่ายดายมากขึ้น เมื่อกระทืบคันเร่งติดพื้น เครื่องยนต์ถูกแฮดขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ผ่านอัตราทด 7  จังหวะ ตั้งแต่  2.526  ไปจนถึง  0.408  แถมยังส่งผ่านเฟืองท้ายที่เร่งเร้าให้อัตราทดสูงถึง   4.992  คิดดูว่าเครื่อง 1.8  ลิตรที่เร่งได้เร้าใจตลอดเวลามันจะน่าประทับใจเพียงใด ในชุดเกียร์   CVT   นี้ยังมีระบบ Paddle Shift   ที่จะไม่มีให้คุณเพียงแค่รุ่นเริ่มต้นเท่านั้น ...และอย่างตัว  EL   ที่เราขับในวันนี้เมื่อเราเรียกใช้งานโหมดอยากตามใจตัวเองชุดเกียร์ก็ตอบสนองดีจนของชูสามนิ้ว....เอ้ย!!! ขอชูนิ้วเยี่ยมให้ในการสร้างส่วนผสมการขับขี่ให้ลงตัว

เครื่องยนต์ที่ดีชุดเกียร์ที่ยอดเยี่ยมคงทำให้หลายคนที่รักสมรรถนะจะต้องหลงรัก Honda HR-V อย่างแน่แท้ แต่รถที่ดีต้องมาพร้อมระบบช่วงล่างที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้ความสนุกในการเร่งที่ไม่ดีแค่เป็นเพียงสิงห์ทางตรงเท่านั้น

ตั้งแต่ตอนเริ่มโครงการ  Honda HR-V เราทราบดีมาโดยตลอดว่าเจ้าอเนกประสงค์คันนี้พัฒนาบนพื้นฐานแพลทฟอร์มของแชสซีจาก Honda  jazz   ใหม่ ซึ่ง ทำให้  Honda HR-V ใหม่นี้อาจจะไม่ใช่รถอเนกประสงค์โดยเนื้อแท้ ของการพัฒนาและการวิศวกรรม ที่จริงเราคิดถึงมันจะได้ช่วงล่างในลักษณะที่เป็น  Honda Jazz   เสียด้วยซ้ำไป

ทว่าหลังจากจับรถขับมาสักระยะหนึ่ง เราขอเปลี่ยนความคิดนั้น ปัดตกมันทิ้งไปนี่ไม่ใช่เพียงการเอาแพลทฟอร์มของรถมาเกาเหลาเท่านั้น แต่ทีมวิศวกรของฮอนด้ายังปรับให้มันสมบูรณแบบมากขึ้น  ด้วยความเป็นตัวตนของรถยนต์   Honda HR-V   ใหม่ ทำให้มันมีตัวตนที่เป็นบุคลิกของตัวเอง

ไม่ว่าจะความนุ่มนวลที่สัมผัสได้ในความเร็วต่ำ และหนับแน่นแอบสปอร์ตติดกระด้างนิดหน่อยเมื่อขับความเร็ว ด้วยการเซทระบบช่วงล่างทางด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท แต่ด้านหลังยังใช้แบบทอร์ชั่นบีม   H Shape  สามารถกล่าวได้เต็มปากว่ามันยังคงหลงเหลือความเป็นซิตี้คาร์ติดปลายนวมอยู่บ้าง

ทว่าบนถนนมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อยอย่างแรกที่บอกได้ทันทีโดยเฉพาะทางหลวงชนบทที่มีหลุมให้ได้ลุยแบบนี้ ช่วงล่างของ   Honda HR-V  มีการปรับชุดโช๊คที่มีระยะตอบสนองยาวขึ้นเติมความเป็น  SUV   ลงไป เรียกว่าเป็นตัวตนแบบพี่ใหญ่  Honda CR-V   โดยเฉพาะในช่วงของทางตรง หรือเมื่อต้องออกนอกลู่นอกทางบางเล็กน้อย

แต่เมื่อถึงทางโค้งตัวตนถูกเปลี่ยนให้คุณขับสนุกด้วยความหนึบแน่นในการสาดเทโค้ง ลักษณะเดียวกับที่เราเคยสัมผัสไปใน Honda Civic   

จำได้ไหมที่เราบอกว่า นั่งตอนหลังเหวี่ยงไม่สนุกเอาเสียเลย แต่ถ้าคุณมาเป็นคนคุมบังเหียนแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าคุณจะสนุกในการบี้โค้งด้วยความเร็ว ตัวรถแม้เป็นทรงครอสโอเวอร์แต่มีแรงเหวี่ยงน้อยมากพอสมควร ท้ายรถก็ตามข้างหน้ามาอย่างไว

ในขณะที่ตัวพวงมาลัยเองใช้ระบบ  แร็คแอนด์พิเนียน พร้อมผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า หรือ EPS  คล้ายในซิตี้คาร์ มันต่างเพียงมีระยะฟรีมากกว่านิดหน่อย ทำให้เรื่องการบังคับเลี้ยวลดความคมในการใช้งานไปบ้าง แต่ก็ไมถึงกับงุ่นง่านในการเปลี่ยนทิศทาง การวิ่งบนริมอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ที่เต็มเปี่ยมด้วยโค้งคอยตอนรับเรา ทำให้รู้สึกถึงความสนุกสนานในการขับขี่

และท้ายที่สุดคำตอบของความสนุกสนานนั้นก็อยู่ในจิตวิญญาณที่มีการพัฒนาให้มีศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อให้ควบคุมรถยนต์ได้ง่ายขึ้นในระหว่างการเดินทาง เหมือนใส่จิตวิญญาณสปอร์ตมาให้ในการขับ

ซึ่งถ้าคุณกำลังคิดว่า พี่ครับแล้วผมจะเอาเจ้า Honda HR-V ไปเที่ยวเป็นขาลุยอยากกินฝุ่นบ้างเล็กๆ มันจะลงตัวไหม ตรงนี้บอกเลยว่ามาก ด้วยทีมวิศวกรจับเอาชุดโช๊คที่พัมนาใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า   Amplitude Reactive Damper   เข้ามาใช้ ในการพัฒนารถยนต์ Honda HR-V ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถคอมแพ็คคาร์ที่มีโช๊คลักษณะนี้จากเดิมที่ติดตังใน  Honda Accord Hybrid   และ   Honda Odyssey 

ชุดระบบกันสะเทือนหลังของ   Honda HR-V   ยังเป็นแบบระบบทอร์ชั่นบีม  H Shape

โดยชุดโช๊คนี้สามารถทำงานตอบสนองตามสภาวะการขับขี่ ภายในกลไกการวิศวกรร ถ้าอธิบายง่ายๆมันเป็นโช๊คสองระบบในหนึ่งเดียว ที่สามารถเปลี่ยนการทำงานตามสภาพการขับขี่ของผู้ใช้ ในกรณีของ Honda HR-V มันคือบนถนนหรือการลุย

ในภาวการณ์ปกติ ที่ไม่เน้นในการสันสะเทือนมากมายนักอย่างเช่นการขับขี่บนถนนทั่วไป ชุดโช๊คจะใช้ ลูกสูบหลักในการตอบสนองในการขับขี่ แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณบ้าดีเดือดอยากเอาเจ้าอเนกประสงค์คันนี้ไปลอง ชุดสูบที่สองจะเข้ามารับช่วงแทนไม่ว่าจะในความเร็วต่ำและรวมถึงในยามที่คุณขับด้วยความเร็วสูงอีกด้วย ...

 

สรุป จับนำผสมพันธุ์ Honda HR-V ….. Cross At it Best

 

ถึงที่หมายปลายทางจบการทดสอบในงวดนี้ กับรถยนต์อเนกประสงค์ที่หลายคนรอคอยมานาน Honda HR-V ใหม่ เราแทบจะลงมาคำนับมันในฐานะที่เป็นหนึ่งรถที่เป็นเกียรติมากในการได้มีโอกาสทดสอบ ....และพูดตามตรงว่าถ้ามีโอกาสจะขอซื้อไว้ใช้งานคันหนึ่งแน่....

โจทย์ที่ตั้งมาจากทีมวิศวกรในการที่พวกเขาอยากจะทำรถสักคันให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราตระหนักมากขึ้นหลังมารวบรวมเก็บความคิดสรุปแนวทางต่างๆ ในการขับขี่ ว่าจริงๆแล้วอะไรเป็นอะไรในรถคันนี้ แต่ความจริงแล้วหลังจากที่จบงาน เราสามารถสัมผัสได้เลยว่า  Honda HR-V เป็นความชาญฉลาดของ  Honda   ในการหยิบเอาทุกสิ่งในรถยนต์รุ่นเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยมายำรวมกัน  แล้วเติมสีสันและรสชาติการขับขี่ให้น่าสนใจมากขึ้น

ไม่ว่าจะจุดกำเนิด   Honda HR-V   เองที่ไม่ว่าใครก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันคือ  Baby CR-V   ในชั่วโมงนี้ แต่แล้วเมื่อเรามองการออกแบบ มันชวนนึกถึงรถสองรุ่นในคราวแวบแรก...มองหน้าตรง...เฮ้ย!  Honda Jazz  และเมื่อมองบ่อยขึ้น ...เออ เราว่ามันเหมือนหรูรุ่นใหญ่  Honda Odyssey  บ้างแล้วล่ะ

ด้านข้างอาจจะไม่เหมือนใครมากมายนักแต่ก็ได้อารมณ์ของ  Honda CR-V   มาบ้าง ส่วนบั้นท้าย มอง 45  องศามันแทบมีอารมณ์ของ   Honda jazz   เข้ามา แต่เมื่อมองท้ายตรงแล้วตัดหัวลูกศรส่วนไฟเลี้ยวไป เออ...มันเป็น  Honda Odyssey   

ภายในเป็นตัวตนที่ลงตัวของ  Honda Jazz  ผสาน Honda Civic   ที่แอบนั่งสบายตอนหลังในแบบ Honda Accord  รวมวัสดุที่ดูดีมีคุณภาพที่จริงต้องยอมรับว่าดีกว่าเก๋งคอมแพ็คของค่ายมากมายหลายเท่า รวมถึงวัสดุประเภท Soft touch  

แต่ท้ายที่สุดตัวตนที่เรากล่าวมายกรุ่นนั้นรุ่นนี้เข้ามาพรรณนาให้คุณเห็นภาพในด้านต่างๆ มันกลับเป็นปัจเจกของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร เป็นอเนกประสงค์แบบเฮฟวี่ ที่ขับเร็วก็ได้ขับช้าก็ดี การตอบสนองได้อารมณ์คล้ายรถสปอร์ตที่ทำให้ผู้ขับขี่สนุกสนานทุกเส้นทางที่ไป เหมาะมากกับวัยรุ่นวัยใส หรือ คนครอบครัวรุ่นใหม่ ที่ยังเป็นพ่อแม่มือใหม่  ..นี่คือรถที่ลงตัวที่สุด ตั้งแต่ขับทดสอบรถมาเลยทีเดียว และมันคือการเอาทุกอย่างมาเกาเหลาและเป่าสมรรถนะออกมาเป็นรสชาติที่ดีในการขับขี่คันหนึ่ง

ภาพรวมการทดสอบครั้งนี้อาจจะต้องเรียนตามตรงว่ายังมีหลายอย่างไม่ได้ทำการทดสอบอย่างจริงจัง แต่ถ้าคุณกำลังมองหาตัวเลขประหยัดว่ามันดีเท่าไร ในสภาพสองเลนสวนเช่นนี้ทำความเร็วเต็มที่ 120  ก.ม./ช.ม. นั่งสองคนสภาวะอากาศเย็นรับลมหนาว เราได้ตัวเลขบนหน้าปัด  12.9  ก.ม./ลิตร จากน้ำมัน   E20  

แต่ทางทีมวิศวกรมีข้อมูลเผยว่าจากการทดสอบของพวกเขา อัตราเฉลี่ยดีที่สุดอยู่ที่ 15.0  ก.ม./ลิตรในน้ำมันอี 20  และ เมื่อใช้   E85  มันจะเหลือเพียง   10.8  ก.ม./ลิตร เท่านั้น

 

รถในฝัน......สำหรับใครหลายคนอาจจะต้องเป็นรถหรูที่แพงหูฉีก หรือสมรรถนะเร้าใจถึงอารมณ์ เพื่อตอบอัตตาของตัวเองทั้งที่ความจริงแล้วรถคันนั้น คุณอาจจะไม่ค่อยได้ขับ หรือมีโอกาสน้อยมากที่จะขับขี่มันไปบนถนน เป็นเพื่อคู่หูที่รู้ใจ

ทว่าสำหรับเราหลังจากลอง   Honda HR-V  ใหม่แล้ว เราไม่แปลกใจเลยที่นี่จะคือรถในฝันที่แท้จริง สวรรค์ของชั้นกลางนักขับตัวยง ด้วยการตอบโจทย์ผ่านเรือนร่างลงตัวในความงาม การจับเอาความสมบูรณแบบของแต่ละรุ่นมาผสานเป็นหนึ่งเดียว ทั้งในแง่การใช้งานและสมรรถนะ แบบที่ Honda   บอกในโฆษณาว่า Cross at it Best  

ท้ายที่สุดรถในฝันคันนี้ ยังมีโอกาสที่คุณจะยังจับต้องได้จริง..สามารถไขว่ขว้ามันได้ในชั่วชีวิตนี้ โดยที่ไม่ต้องเก็บเอาไปฝัน ...อีกต่อไป ....และสามคำตัวอีกษรที่อยากให้จดจำไว้  HR-V

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)  

 

ขอบคุณบริษัท  ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงาน  Autodeft.com  เข้าร่วมการทดสอบ   Honda HR-V

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

รถทดสอบ  Honda HR-V  1.8 EL

ราคาจำหน่าย 1,045,000 บาท  

 

สิ่งที่ชอบ >> สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีมันคือรถที่สร้างความลงตัวทั้งการขับขี่ สมรรถนะบนถนน หรือจะในทางฝุ่น และที่สำคัญรถยังออกแบบโดดเด่นสะดุดตา

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >>  เบาะนั่งตอนหลังที่ไม่กระชับ การจัดวางท่านั่งที่อยู่จุดเหวี่ยงทำให้การไม่กระชับนี้เป็นหอกข้างแคร่ในยามที่มีผู้โดยสารตอนหลัง

 

สิ่งที่อยากให้มีหรือคำแนะนำเพิ่มเติม >>>  จะว่าไปอยากให้ฮอนด้าลองพิจารณาเครื่องยนต์ไฮบริดดูบ้างและมันดูน่าสนใจในการทำความประหยัดมากกว่านี้ ขับสนุกมากกว่านี้ไปอีก

 

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >>> นาทีนี้คงไม่ต้องกล่าวอะไรมากมายแล้ว สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ตัวรถที่ลงตัวงดงาม ความประหยัดที่ดีและลงตัว นี่คือรถที่ดีที่สุดในการคบหา ...

 

[GALLERY961]