Hands On : Honda CBR650F & CB650F สองสไตล์รุ่นกลางความคุ้มค่าที่น่าคบหา
- โดย : Autodeft
- 6 เม.ย. 57 00:00
- 31,731 อ่าน
พบบททดสอบรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ตระกูล 650 ใน Honda CBR650F และ Honda CB650F
หากถามถึงกระแสความนิยมที่มาแรงจนทำให้รถยนต์ดูเหงา ค่ายสี่ล้อทั้งหลายดุจะอิจฉากระแสรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือ บิ๊กไบค์ ที่น่าทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักมันอีกต่อไป และหลายคนที่มีงบประมาณพอจะเป็นเจ้าของก็อยากจะจับจองสองล้อสมรรถนะเร้าใจสักคัน
ตั้งแต่เปิดตัวอออกมา Honda CBR650F และ Honda CB650F รถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางเริ่มต้นทะยานเข้าสู่คำว่าบิ๊กไบค์ดูจะเป็นที่สนใจมากสำหรับหลายคน ไม่ใช่เพราะความเป็นแบรนด์ฮอนด้า แต่มันมาพร้อมความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะเมื่อฮอนด้ากล้าในตลาดขนาดกลางแนะนำเครื่องยนต์สี่สูบ ซึ่งสาวกบิ๊กไบค์มองว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่สำคัญในการขับขี่เลยก็ว่าได้
แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่วันนี้ทีมงาน autodeft.com ก็มีโอกาสมาสัมผัส Honda CBR650F และ Honda CB650F กันอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี แต่ในหมู่สื่อมวลชนก็ยังไม่มีใครมีโอกาสขับเสียทีกันอย่างจริงจัง
มองภายนก Honda CBR650F และ Honda CB650F เป็นความเหมือนที่แตกต่าง แต่ทั้งหมดไม่ว่าจะเลือกอะไรขึ้นอยู่กับความชอบสไตล์ของคนไม่มีผิดถูก
ความแตกต่างระหว่างรุ่นอยู่ที่ Honda CBR650F เป็นตัวตนในแบบสปอร์ต รถถูกออกแบบมาพร้อมสำหรับการทำความเร็วเติมแต่งด้วยชุดเกราะแฟรริ่งพร้อมยังลมหน้าเอาไวให้คุณหมอบในสไตล์สปอร์ในยามต้องการใช้สมรรถนะสูงสุดของรถ ส่วนมิติตัวถังก็กำลังดีกับการขับขี่ด้วยความยาว 2,107 ม.ม. กว้าง 753 ม.ม. และสูง 1,149 ม.ม.
ด้าน Honda CB650F ให้ความต่างด้วยการให้สไตล์แบบรถมอเตอร์ไซค์ทรง Naked Bike การเป็นมอเตอร์ไซค์ทรงเปลือยไร้แฟร์ริ่ง มีข้อดีที่การขับขี่ง่ายขึ้น โดยเฉพาะใครที่กำลังมองหารถเอาไว้ขี่ในเมือง แต่ในยามความเร็วสูงก็อาจจะต้องต้านแดดต้านลมกันเสียหน่อย ทว่าเมื่อมองเรื่องของขนาดก็มีความต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยความสูงที่ลดหลั่งลงมาเหลือเพียง 1,120 ม.ม.ส่วนเรื่องของความยาวและความกว้างเท่ากันทุกระเบียบนิ้ว
ขึ้นคร่อมรุ่นแรกในรุ่น CBR650 F สัมผัสในตัวสปอร์ตเป็นท่านั่ง ซึ่งเมื่อเอมมือจับชุดแฮนด์มันไม่โก้งโค้งไปมากเหมือนสปอร์ตหลายๆตัวที่ออกมาวางจำหน่ายในตลาด ถ้าสังเกตให้ดี Honda CB650F ใหม่นี้ จะมาพร้อมเบาะชิ้นเดียวสำหรับผู้ขี่ซ้อนท้าย ซึ่ง Honda บอกเราว่า การที่พวกเขาใช้รหัสข้างหลัง ว่า “F” ก็เพราะต้องการทำรถคันนี้ไม่ให้มีแนว Racing เกินไป แม้จะมีตัวตนในความสปอร์ต แต่ก็ต้องการท่านั่งที่สบายในการขับขี่
ในตัว CB650F ทุกอย่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงการออกแบบแฮนด์บาร์ที่สูง ทำให้ คุณรู้สึกเหมือนขี่มอเตอร์ไซค์ทั่วๆไปพอสมควร และจะรู้สึกว่าท่านั่งจะไม่โน้มไปข้างหน้านัก เหมาะกับคนขี่เน้นชิวมากกว่า ส่วนท่านั่งผู้ซ้อนก็เน้นความง่ายในการขึ้นลงมากกว่าตัวสปอร์ต
แม้จะความแตกต่างกันบ้างแต่ก็ยังมีบางอย่างที่เหมือนกันอยู่บ้างเริ่มตั้งแต่ ถังน้ำมันขนาด 13.7 ลิตรในทั้งสองรุ่น ซึ่งมีระบบวาล์วกันน้ำมันรั่วตอนรถล้มทำให้มันใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบ Hiss และกุญแจ Wave Key ช่วยป้องกันการโจรกรรม โดยระบบสตาร์ทจะอ่านชุด Code จากกุญแจที่สตาร์ทเครื่องยนต์ ทั้งยังมีความละเอียดของตัวกุญแจมากกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ช่วยให้หายห่วยลงเรื่องรถหายมากขึ้น เว้นแต่โจรจะตีหัวขโมยกุญแจคุณไป.. นั่นแหละ
แน่นอนว่าไฮไลท์ในบิ๊กไบค์หลายคนคงสนใจเรื่องของเครื่องยนต์มากกว่า ขุมพลังใต้หว่างขาของทั้ง Honda CBR650F และ Honda CB650F อยู่ที่ ต้นกำลังเครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 650 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 87 แรงม้าที่ 11,000 รอบต่อนาที และสามารถทำแรงบิดสูงสุดได้ถึง 63 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์มาพร้อมระบบเกียร์ 6 สปีดแบบเกียร์วนช่วยในการขับขี่ที่ง่ายไม่ยากจนเกินเข้าใจ ด้วยเกียร์ 1 ตบลง ที่เหลืองัดขึ้นจนถึงเกียร์ 6 และทั้งหมด มีอัตราทดที่ไม่เป็นเกียร์แบบ Over Drive ดังนี้
เกียร์ |
อัตราทดเกียร์ |
1 |
3.071 |
2 |
2.235 |
3 |
1.777 |
4 |
1.520 |
5 |
1.333 |
6 |
1.214 |
Honda ให้ เหตุผลที่เซทชุดเกียร์ออกมาเป็นแบบไม่ Over Drive ทั้งหมดว่า เพื่อให้การขับขี่ในรุ่น 650 นั้น มีอัตรารอบเร่งที่ดีในทุกย่านความเร็ว ไม่ว่าจะขับที่ความเร็วไหนเมื่อต้องเร่ง Honda ตระกูล 650 จะพุ่งทะยานออกไป
คำกล่าวนี้ฝังหัวจากห้องอบรมจนเรามาสัมผัสรถจริง ในรุ่น Honda CBR650F เจ้าสปอร์ตสองล้อที่ออกมาแบบมาได้อย่างพอเหมาะพอดี ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า กระผมเป็นคนตัวใหญ่สูง 182 ซ.ม.ทำให้เมื่อตวัดขาขึ้นค่อมจึงพอดี ท่าขี่การจัดวางจึงลงตัว
เมื่อสตาร์ทเครื่องสิ่งแรกที่ทำให้เรารู้สึกถึงความแตกต่างคงเป็นเสียงเครื่องยนต์ 4 สูบที่เร้าใจกว่าเครื่อง 2 สูบมากมาย แม้หลายค่ายจะศรัทธาในเครื่องยนต์ 2 สูบมากกว่า เนื่องจากมันให้แรงบิดที่ดีกว่าแต่เสียง...มันกลับหาใช่ความเป็นบิ๊กไบค์ที่เน้นความเร้าใจเมื่อคุณบิดคันเร่งลงไป
การทดสอบวันนี้เป็นการทดสอบในศูนย์ขับขี่ปลอดภัยจอง Honda เส้นทางถูกเซทไว้ให้ดูจับอาการในเรื่องการเข้าโค้งมากกว่า ดังนั้นอย่าเพิ่งถามในเรื่องความเร็ว
แต่ช่วงแรกที่ออกตัวไปกับ Honda CBR650F ช่วงทางตรงยาวแน่นอนเราบิดเค้นรถดูเล็กอัตราเร่งของรถ Honda CBR 650 F สนองความเร้าใจแม้คุณจะไม่ฟาดถึง 11,000 รอบตามแรงม้าสูงสุด แต่ก็สามารถบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาในเรื่องสมรรถนะการเร่งของมัน
โค้งแรกมาแล้วเราสับเข้าเกียร์แล้วเอนเข้าโค้งโค้ง ตัวรถที่มีน้ำหนักราวๆ 211 กก. สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะ การเทโค้งนั้นตอบเรื่องความมาดมั่นในการขับขี่ ด้วยยางที่มีการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม ด้วยยางหน้าขนาด 120/70/R17 ส่วนยางหลังใช้ขนาด 180/55/R17 ช่วยให้ไม่รู้สึกว่าโยนโค้งจนเกินไปนัก
ถึงน้ำหนักตัวรถจนค่อนข้างมากแต่ก็ตาม แต่เมื่อเค้งที่สองมาถึงในช่วงโค้งยาว การสาดมันเข้าไปพร้อมการเปิดคันเร่งเลี้ยงเข้าโค้งก็ไม่ได้ทำให้ไม่รู้สึกมั่นใจแถม คุณยังจะรู้สึกสนุกมากว่าในการขี่เจ้า 650 F และแม้ที่หลายคนกังวล คงเป็นเรื่องการทรงตัวช่วงความเร็วต่ำนั้น บอกได้เลยว่าสบายไม่มีปัญหา รถ มีการออกแบบในการกระจายน้ำหนักเรื่องความเร็วต่ำที่ดีเกินตัว โดยเฉพาะช่วยที่เราผ่านทางซิกแซกบอกได้เลยว่าไร้กังวล แต่ถ้าถามว่าในความเป็นจริงเจอรถติดจะรอดไหม ถ้าต้องมุดแทรก ตรงนี้ยอมรับว่า อาจจะลำบากเล็กน้อย
ด้านระบบเบรกก็ทำได้ดีเยี่ยมในช่วงที่ขับหลายรอบสนามไม่ใช่เพียงแค่การเร่งเท่านั้นที่ให้ความมั่นใจ แต่การทำความเร็วต้องมารพ้อมการชะลอที่มั่นใจก็ดีไม่แพ้กัน Honda ตระกูล 650 นี้ มาพร้อมดิสก์เบรกคู่หน้ารวมถึง ให้จนใหญ่ขนาด 320 ม.ม. หนา 5 ม.ม. พร้อมปั้มเบรกสูบคู่ ส่วนด้านหลังเป็นแบบสูบเดียวมาพร้อมจานขนาด 240 ม.ม. และที่สำคัญบังมาพร้อมระบบเบรก ABS เมื่อคุณมาแรงต้องการเบรกเร็วก็สามารถเอาอยู่ได้ อย่างแนบเนียนไร้กังวล
ไม่นานก็มาถึงคราวที่จะต้องขึ้นขี่ตัว Naked เจ้า Honda CB650F กันบ้าง เจ้าเนคคันนี้เมื่อขึ้นคร่อมสิ่งที่แตกต่างเลยคงพ้นความรู้สึกในการขับขี่ที่ดูมีความสบายมากกว่าพอสมควร ความแตกต่างด้วยทรวดรงเกราะที่หายไปทำให้มันมีน้ำหนักน้อยกว่า ถึง 2 กก. ด้วยพิกัดตัวเปล่าเพียง 209 กก. เท่านั้น
บีบคลัทช์ออกตัว ..ให้ตายเถอะ เราดับคาที่อยู่ 3 รอบ ทำให้เรารู้สึกของฟีลลิ่งที่ต่างของการออกแบบทันที ในรุ่นสปอร์ต คุณอาจจะเลียคลัทช์ออกได้ แต่ใน Naked กลับต้องการให้กระโดดออกมากกว่า แม้ว่าชุดก้านมือจับคลัทช์จะตั้งได้ แต่หมายความว่า การออกแบบต้องการให้เป็นเช่นนั้น
หลังจากออกตัวได้ เมื่อเทียบ Honda CBR650F สิ่งที่ CB650F ต่างออกไปเลยคือความคล่องตัว ที่สามารถเบี่ยงซ้ายเบ้ขวาได้รวดเร็วกว่า รวมถึงชุดแฮนด์ยังว่องไวกว่าตัวสปอร์ตพอสมควร ช่วยให้เวลาที่คุณต้องซิกแซกหรือซอกแซกย่อมดีกว่า ในความเป็นจริง
เมื่อเข้าโค้งความง่ายทำให้ Honda CB650F ควบคุมได้ดีในโค้ง ซึ่งหากเทียบกับการเข้าโค้งของ Honda CBR650F ตัวเนค จะเน้นการที่ง่ายกว่า แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบเทหนักๆไปทีเดียวแบบผู้เขียน ตัวสปอร์ตจะมีภาษีดีกว่า เพราะเมื่อเทโค้งช่วงระหว่างที่เอียงตัวนั้นมีการบาลานซ์มากกว่า
ส่วนเรื่องอัตราเร่งแม้จะมีความแตกต่างในเรื่องของน้ำหนักเพียง 2 กก. แต่นั่นก็พอที่จะทำให้รู้สึกได้ถึงอัตราเร่งที่ดีกว่า พอสมควรจนพอจะรู้สึกได้ในระหว่างการขับขี่ แม้จะใช้เครื่องยนต์เดียวกันก็ตามที
ในภาพรวมไม่ว่าคุณมองรุ่นไหนอยู่ Honda ตระกูล 650 ทั้ง Honda CBR650F และ Honda CB650F ต่างมีความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ ด้วยความเป็นตัวต้นที่แท้จริงในแบบบิ๊กไบค์ ในราคาที่สามารถสัมผัสได้ ถ้าอยากได้..ไม่ต้องตัดสินใจมากเพราะคุ้มค่าแน่นอน
ขอบคุณ Honda Big Wing ที่เอื้อเฟื้อให้ทีมงานเข้าร่วมทดสอบ Honda CBR650F และ Honda CB650F
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY422]