Hyundai Veloster 1.6.... ชัดเจนอย่างที่เป็น ....
- โดย : Autodeft
- 15 ก.ย. 56 00:00
- 7,913 อ่าน
มาพบบททดสอบ Hyundai Veloster ใหม่ สปอร์ตคาร์สัญชาติเกาหลีที่มีดีมากกว่าที่คุณคิดในราคา 1.299 ล้านบาท
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาพลันระหว่างนั่งฝังเพลงเพลินๆบนรถ สปอท โฆษณาหนึ่งก็พาให้เราสนใจ ด้วยคำพูดที่เรียลง่ายแต่ฟังดูดี “ชัดเจน..อย่างที่คุณเป็น” ก็ทำให้เรา ถึงกับ หืม!! เพราะไม่บ่อยนักที่จะเจอคำโดนๆ ผ่านวิทยุ
ใครจะคิดว่ารถสปอร์ตจะมาโฆษณากันแบบง่ายๆ เช่นนี้ แต่ Hyundai Veloster ก็สร้างความฮือฮา ตั้งแต่เปิดตัวและมันเป็นหนึ่งในรถที่หลายคนอยากจะจับต้องการจะไขว่คว้ามาขับสักครั้ง ด้วยบ้านเรารถสปอร์ตที่จะจับต้องได้ก็มีน้อย ยิ่งราคาระดับล้านต้นๆ และสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท นาทีนี้ Hyundai เป็นค่ายเดียวที่ตอบสนองได้ แม้จะนำเข้าทั้งคัน
สายเลือดเกาหลีกลับมาอีกครั้ง หลังจากเคยวาดลวดลายในรุ่น Hyundai Coupe ที่เคยเข้ามาเปิดตลาดในช่วงหลายปี นี่ยังไม่นับถึงอดีต Hyundai Tiburon แต่ครั้งนี้ค่ายเกาหลีกลับมาอย่างมีสไตล์ และไม่ใช่สปอร์ตเฉกเช่นเดิม
เรือนร่างสปอร์ตคูเป้ แปลกตาในหลักสูตร 2+1
ตั้งแต่เปิดตัวออกมาเมื่อช่วงมอเตอร์โชว์ หลายคนคงจะรู้สึกแปลกตากับเรือนร่างของ Hyundai Veloster และครั้งนี้ มันก็ยังทำให้เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจ ในการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจภายใต้ New Thinking New Possibility
จะทำรถสปอร์ตแบบเดิมๆ ทำไมในเมื่อคนซื้อรถยนต์มาใช้งาน และด้วยปรัชญาเรื่องนี้เอง ทำให้นักออกแบบของ Hyundai เริ่มงานภายใต้ความคิดที่ต้องการจะทำให้รถสปอร์ตคนหนึ่งตอบสนองได้ทุกอย่างรวมถึงการนั่งและความเหล่อเหลาที่ต้องไม่ขาดออกไป
ที่จริงชี่อ Veloster เอง ก็มีความหมายที่ลงตัวชัดเจนอยู่แล้วจากการสมาสคำว่า Velocity และ Roadster เข้ามาด้วยกันการ และ เมื่อคลุกเคล้านออกมาเป็นโจทย์ในการออกแบบ เราจึงได้เห็นรถสปอร์ตหนึ่งคันที่มีทั้งเส้นสายการออกแบบในสไตล์รถโรดสเตอร์ เริ่มจากฝากระโปรงหน้าที่มีความยาวตามสไตล์รถยนต์สปอร์ตน้ำหนักเบาขับสนุกที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล ยังพิถีพิถันแอบความหรูหราด้วยกระจังหน้า รวมถึงไฟหน้าแบบ Projector และท้ายสุดฝากระโปรงหน้า 2 Plane ช่วยระบายความร้อนจากห้องเครื่องและ เพิ่มแรงกดทางด้านหน้า ทั้งช่วยเสริมความดุดัน
ช่วงกลางลำ Hyndai Veloster นำเส้นสายการออกแบบมาจากการผนวกรถยนต์นั่งแอทช์แบ็คเข้ากับความเป็นรถยนต์สปอร์ตคูเป้ ทำให้การออกแบบแนวใหม่ ตอบสนองในการใช้งาน ทั้งยังดูหล่อเหลาไปด้วยพร้อมกัน จากการให้รายละเอียดภายใต้ปรัชญา Fluidic Sculpture ให้ความรู้สึกเหมือนรถขับพุ่งทะยาน ผนวกแนวไอเดียวความทันสมัย ให้ความลงตัวในความสปอร์ตด้วย ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว กว้าง 7 นิ้ว มาพร้อมยางขนาด 215 /45/R17 เต็มซุ้มล้อพอดี
ห้องโดยสารกว้างสบาย แม้จะเป็นสปอร์ต
หลายครั้งเมื่อพูดถึงรถยนต์สปอร์ต เรามักจะฟังแนวคิดเกี่ยวกับรถสปอร์ตไปในทางที่ไม่ดีเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นรถเห็นแก่ตัวบ้างล่ะ ไม่คุ้มค่าต่อเงินที่จ่ายบ้างล่ะ ...แต่ทุกสิ่งอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิดใน Hyundai Veloster
ต้องยอมรับว่าดั้งเดิมพูดถึงรถสปอร์ต เราก็มักมองว่ามันเป็นรถยนต์ขับเล่นจีบสาว ไม่เหมาะที่จะพาเพื่อนๆไปด้วย ยิ่งคนเพื่อนเยอะ ก็ยิ่งลำบากใจถ้าอยากได้รถสปอร์ตมาขับ จนค่ายรถยนต์หลายเจ้าหันมาเพิ่มสมรรถนะในรถยนต์เดิมที่วางขายในตลาดอยู่แล้ว แต่พวกวิศวกรเกาหลีกลับมองว่า ก็ทำไมเราไม่ลองทำสปอร์ตที่ตอบสนองการใช้งานได้ด้วย
จุดกำเนิดที่ต่างกัน ทำให้ Hyundai Veloster แตกต่างจากสปอร์ตรุ่นอื่นที่มีขายในตลาด โดยเฉพาะทุกอย่างต้องคำนึงถึงการใช้งานจริง จนเป็นที่มาของสูตรเด็ด ประตูแบบ 2+1 ให้ความแปลกตา ด้วยประตูข้างแบบ ไม่สมมาตรด้านคนขับมีบ้านเดียว แต่ด้านคนนั่ง มี 2 บาน ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยในการขึ้นลงที่สะดวก ที่สำคัญการไร้ประตูไปหนึ่งบาน ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มาก และยังทำมวลรวมของรถเบาขึ้น ด้วยพิกัดเพียง 1,256 ก.ก.
แม้จะมีความยาวตลอดรอบคัน 4,220 ม.ม. พอๆกับคอมแพ็คคาร์ชั้นนำทั่วไป แต่ด้วยความเน้นในส่วนหนึ่งที่ต้องนั่งสบาย Hyundai Veloster เลยถูกออกแบบฐานล้อให้ยาว 2,650 ม.ม. ส่วนในห้องโดยสารก็จุเพียงพอผู้โดยสารผู้ใหญ่ 4 คนพอดีไม่ขาดไม่เกิน ประตูหลังขึ้นลงสะดวก อาจจะลุกนั่งลำบากบ่างเล็กน้องจากเบาะที่เว้ากระชับแบบรถสปอร์ต เช่นเดียวกับที่วางแก้วน้ำจัดวางไส้ตรงกลางของตำแหน่งเบาะหลัง จนก่อให้เกิดคำถามว่า ระหว่างทำเบาะนั่งเพิ่มอีกที่ แล้วมีพนักเท้าแขนที่วางแก้วน้ำได้จะดีกว่าไหมในความเป็นจริง
ถึงจะไม่ได้นั่งทางด้านหลังมากมายนัก แต่ก่อนเดินทางก็ลงไปนั่งสำรวจดูสักเล็กน้อย ซึ่ง Hyundai Veloster ก็ตอบสนองการนั่งได้ดี ที่วางขาเหลือมากกว่าที่คิด อาจจะด้วยทางนั่งที่ต่ำลงกับพื้น ก็ยิ่งช่วยทำให้มีพื้นที่เหนือหัวมากขึ้น แถมการออกแบบเอง ยังทำกระจกจากประตูบานหลัง ล้ำเข้ามาช่วยหลังคาเล็กน้อย ช่วยผู้โดยสารไม่รู้สึกอึดอัด เหมือนรถคูเป้ ที่อาจจะรู้สึกว่าคับแคบและต้องการอากาศหายใจ
การออกแบบ ในห้องโดยสารโดยรวมเอง เน้นสีดทนดำให้ความสปอร์ต ลัดเลาะการตบแต่งด้วยสีเงิน ตรงหน้าคนขับจัดอุปกรณ์มาให้จุใจ ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังชั่น 3 ก้าน หุ้มหนังให้สัมผัส บวกกับมาตรวัดสไตล์สปอร์ต ฝั่งในคอนโซลหน้าที่ดูล้ำยุคเกินคาด ส่วนปุ่มต่างๆ จัดวางให้เข้าใจง่าย รวมศูนย์ที่ตรงกลางคอนโซลหน้า ไม่ว่าจะปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์เพิ่มความรู้สึกสปอร์ต ไล่เรียงขึ้นไปด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ รวมถึงระบบความบันเทิงจากเครื่องเสียงทำงานคู่กับจอ LCD ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
เร้าใจเกินคาดสมรรถนะเหลือล้น
การเดินทางหนนี้เราถูกรวมอยู่ที่ Hyundai Veloster 1.6 สีส้ม Vitamin C โดยแต่ละคันจะมีผู้ร่วมชะตากรรม 3-4 คน ซึ่งในรถคันที่เราเดินทางไปด้วยก็ยังมี พี่จาก Auto-Thailand รวมถึง บอย วรพล สิงห์เขียวพงษ์ พร้อมสัมภาระที่ขนกันมาเต็มอัตราศึก
ล้อหมุนการเดินทางเริ่มต้น วันนี้ไม่ได้ขับเป็นไม้แรก แต่การเดินทางในตำแหน่งตุ๊กตาหน้ารถ ก็ทำให้รู้จักบุคลิก Hyundai Veloster ไปพลางๆ และเมื่อโดยสารไปสักระยะ สิ่งที่อยากชมเชยเลยก็เป็นเบาะนั่งที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว หลายคนมักจะกังวลว่า เบาะสปอร์ตจะนั่งไม่สบาย แต่ไม่ใช่กับเจ้าสปอร์ตสายเลือดเกาหลีคันนี้
พี่บอยเอง วันนี้ ท่านจองข้างหลังไปก่อน ซึ่งตัวพี่บอยกับผมเองก็มีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกัน ถามเรื่องเล่าความ ในการนั่งข้างหลัง พี่บอยบอกว่า “สบายมาก” แถมยังนั่งหนังสือพิมพ์ไปพลางๆ เหมือนนั่งรถหรู ราคาหลายล้าน
หลังนั่งมากว่า 100 ก.ม. ก็ถึงเวลาสับเปลี่ยนมาอยู่หลังพวงพวงมาลัย Hyundai Veloster การเดินทาง ในช่วงแรกเรายังขับในรูปแบบขบวนคาราวาน ใช้ความเร็วตามปกติที่ 120 ก.ม./ช.ม.
สภาพเส้นทางแถวๆ ฉะเชิงเทรามุ่งหน้าปราจีนบุรี อาจจะค่อนข้างมีสภาพดี แต่ก็มีรอยปะถนนเป็นระยะๆ ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และ ด้านหลังแบบ คัพเพิ้ล ทอร์ชั่นบีม ดูๆ ก็เป็นระบบกันสะเทือนที่เราพบได้ในรถยนต์ทั่วไป แต่ในความรู้สึกในขณะที่ถือพวงมาลัยวิ่งตามๆกันที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. มั่นให้ความรู้สึกมั่นใจ สำหรับคนขับรถนั่งมามาก อาจจะรู้สึกว่า ช่วงล่าง Veloster แข็งกระด้างไปสักนิด แต่ก็พอจะยอมรับได้ เมื่อคุณขับรถสปอร์ต ที่เน้นใช้ความเร็วมากกว่าขับกินลมชมวิว
หลังเลี้ยวเข้าสู่ถนนมุ่งหน้าสระแก้ว เส้นทางที่บีบเหลือ 2 เลนสวน ขบวนเริ่มมีการใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น ที่จริงเราใช้ความเร็วค่อนข้างสูงมากในการเดินทางรูปแบบคาราวาน บนเส้นทางช่วงนี้เหยียบกันสะบัดแตะ 150 ก.ม./ช.ม. ระบบกันสะเทือนยังโชว์สมรรถนะของมันออกมาได้น่าประทับใจ ความกระด้างในช่วงแรกหายไป ในขณะที่ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โช๊คและ สปริง ก็ทำหน้าที่สุดความสามารถ ยิ่งใช้ความเร็วมากขึ้นก็ยิ่งสร้างความประทับใจ แต่ก็แอบท้ายดิ้นเล็กๆ ให้ระทึกในการขับขี่เล็กน้อย ถ้าสะบัดพวงมาลัยเช่น ช่วงเร่งแซง
อีกเรื่องที่ Hyundai Veloster โดดเด่นไม่แพ้กัน ต้องยกให้ การปรับตั้งพวงมาลัยของวิศวกรเกาหลี ไม่ว่าจะไปทิศทางใด สปอร์ตแดนกิมจิก็ตอบสนองได้อย่างมั่นใจ แม้พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ปรับน้ำหนัก หนัก-เบาตามสภาพการขับขี่ จะไม่ค่อยถูกใจบรรดานักขับ ยิ่งเรื่องการหน่วงเวลาในการตอบสนอง จากความซับซ้อนของระบบไฟฟ้า แต่มันไม่ใช่ปัญหาของ Veloster ที่การตอบสนองก็ยังเฉียบคม ยิ่งประกอบกับแพลทฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าก็สามารถควบคุมได้ดั่งใจ
ในเวอร์ชั่นสปอร์ตไร้ระบบอัดอากาศ ใต้ฝากระโปรง Hyundai Veloster พกเครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียงขนาด 1.6 ลิตร แม้จะไร้หอยใหญ่ตัวช่วยปั่นฝีเท้า แต่พละกำลัง 130 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที อาจไม่ต่างจากซิตี้คาร์ที่ขายอยู่เกลื่อนตลาดในปัจจุบัน ก็ให้แรงบิดมากกว่าปั้นฝีเท้า 157 นิวตันเมตรที่ 4,850 รอบต่อนาที ส่งลงเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด รีดความเร้าใจในการขับขี่
อันที่จริงในช่วงระหว่างการเดินทางของเรา ขบวนคาราวานทดสอบ ก็จัดกันหนักๆ หลังจากเลี้ยวเข้าสู่ถนนสองเลน มุ่งหน้าจังหวัดสระแก้ว เส้นทางการเดินทางของเรา ก็ค่อนข้างจะใช้ความเร็วสูง มีเท่าไรใส่กันยับ ด้วยความเร็วพื้นฐาน 120 ก.ม./ช.ม. และหลายครั้งที่เราไต่ความเร็วไปยัง 150-160 ก.ม./ช.ม. โดยมี Hyundai Elantra 1.8 ปิดตูดเราอยู่
การขับความเร็วสูง นอกจากช่วงล่างที่มั่นใจแล้ว เครื่องยนต์ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ต้องขอบคุณระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ทำให้แม้ใช้ความเร็วสูง รอบเครื่องยนต์ก็ยังคงต่ำ ที่ความเร็ว 140 ก.ม./ช.ม.จะใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 3200 รอบต่อนาที และขยับขึ้นเป็น 3400 รอบต่อนาที เมื่อใช้ความเร็ว 150 ก.ม./ช.ม. ถือว่าไม่มาก
ที่สำคัญ Hyundai Veloster 1.6 เป็นรถยนต์ที่เหมาะที่จะขับทุกวัน ด้วยความรู้สึกธรรมดาๆ ถ้าคุณขับในรอบเครื่องยนต์ปกติทั่วไป แต่เมื่อเหยียบคันเร่งจมมิดพื้น ฟาดรอบขึ้นไป 3,000 รอบขึ้นไป Hyundai Veloster ก็จะเร่งแบบทันใจ อาจจะไม่พุ่งปรู๊ดไปเลย แต่ก็เร้าใจระทึกขวัญด้วยเนื้อตัวที่เบาหวิวกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน
ในช่วงทางยาวหลายครั้ง ที่เร่งเต็มอัตราศึกเพื่อกลับสู่ความเร็วสูง แต่เรากลับพบว่า ไม่สามารถทิ้ง Hyundai Elantra 1.8 ได้พ้น แถมหลายจังหวะถ้าซิ่งวัดกันจริงๆ ยอมรับว่า มีสิทธิ์โดนสวนได้ จากแรงม้าและแรงบิดของ Elantra ที่มากกว่าอยู่พอสมควร แต่จะเอาอะไรมากกับรถสปอร์ตที่สามารถใช้ได้ทุกวัน ขับหล่อจีบหญิง ที่อากงอาม่านั่งได้ โดยไม่หัวใจวายตาย แถมยังมีสไตล์เป็นของตัวเอง
ประหยัดลงตัว ใช้งานได้เลย
หลังจากขับอย่างเต็มอิ่มตลอดเส้นทางที่ใช้ความเร็วสูงตลอดเวลา จนกล้าพูดว่าไม่มีช่วงไหนที่เราไม่ใช้ความเร็วต่ำกว่า 120 ก.ม./ช.ม. และตลอดการเดินทางใช้ความเร็วทั้งเร่งแซง และใช้ความเร็วการเหยียบทดสอบแบบไม่บันยะบันยัง ในความเร็วระหว่าง 140-160 ก.ม./ช.ม. และทำความเร็วสูงสุดที่ 173 ก.ม./ช.ม.
แต่เชื่อไหมว่า หลังจากบิดกุญแจดับเครื่องเตรียมเติมน้ำมันก่อนข้ามพรมแดนเข้าเขมร หน้าปัดแจ้งอัตราความประหยัด เราได้ตัวเลข 8.3 ลิตร /100 ก.ม. เทียบเท่าความประหยัด 12 ก.ม./ลิตร จากการขับขี่ความเร็วสูง รวมถึงสภาพการจราจรติดขัดในเมืองก่อนที่ผมจะมาขับ Hyundai Veloster และอัตราประหยัดนี้ยังเป็นอัตราประหยัดเฉลี่ยการขับ 2 คน ระหว่างผมและพี่จากสื่อ Auto-Thailand
ถึงสปอร์ตสัญชาติเกาหลี จะไม่เป็นที่คุ้นเคยอะไรมากมายนัก แต่ Hyundai Veloster ก็เป็นรถสปอร์ตที่สร้างความประทับใจ ด้วยการออกแบบที่สง่า สมรรถนะและความประหยัดที่โดดเด่น ยิ่งประจวบความเป็นรถนั่งทั้งหมดอยู่ในคันเดียวกัน ... นี่คือ รถที่แสดงความเป็นตัวตนได้ ... และชัดเจน...อย่างที่คุณเป็น
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอบคุณคาราวานทดสอบ Hyundai Veloster โดย Hyundai มอเตอร์ไทยแลนด์
สรุปผลการทดสอบ Hyundai Veloster
Hyundai Veloster 1.6
ราคาจำหน่าย 1,299,000 บาท
การทำงานของเครื่องยนต์ Gamma 1.6 MPi
ความเร็วในการขับขี่ (ก.ม./ช.ม.) |
รอบเครื่องยนต์ (รอบ/นาที) |
120 |
2700 |
130 |
2900 |
140 |
3200 |
150 |
3400 |
160 |
3700 |
ความเร็วสูงสุดในการทดสอบ 173 ก.ม./ช.ม.
อัตราประหยัดในระหว่างการทดสอบ 8.3 ลิตร /100 ก.ม. (12 ก.ม./ลิตร)
*หมายเหตุ : ผู้โดยสาร 3 คนพร้อมสัมภาระ เดินทางด้วยความเร็วสูง 140- 150 ก.ม./ช.ม.
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY113]