Full Review : Suzuki Ciaz GLX ขับดีเกินราคา..คุ้มค่าจนต้องคบหาสักคัน

  • โดย : Autodeft
  • 9 ก.ค. 58 00:00
  • 43,897 อ่าน

ลองแล้วก่อนใครกับรถยนต์อีโค่คาร์ซีดานน้องใหม่ล่าสุด Suzuki Ciaz สาวเข้าที่ดูดี เซ็กซี่ปราดเปรียวครบเครื่องในคันเดียวมากกว่าที่คุณคิด

 

 

ในโลกนี้ไม่มีอะไรดีไปหมด...มันไม่สมบูรณ์แบบ ...ใช่...นั่นถือเป็นสัจธรรมของทุกสิ่งในการใช้ชีวิต ...

 

กับ...รถยนต์แล้ว การเลือกเฟ้นรถสักคันถือเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายนัก ด้วยความต้องการของแต่ละคนที่มีความต้องการแตกต่างกันไป รถยนต์ที่หรูดูดีอาจจะมีราคาแพง หรือรถยนต์ที่มีสมรรถนะเลิศ คุณอาจจะต้องยอมจ่ายค่าน้ำมันเพื่อความเร้าใจสนุกสนานในการขับขี่ แต่ถ้าทั้งหมดที่เรากล่าวมาสามารถเชื่อมโยงจนความลงตัวในการใช้งาน....ถึงจะไม่เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ แต่ก็เชื่อเลยว่ามันน่าจะออกมาในจุดที่ใกล้เคียงที่สุด

รถยนต์ Suzuki Ciaz  เป็นรถยนต์รุ่นหนึ่งที่ส่วนตัวเฝ้าติดตามจับตามาโดยตลาด ตั้งแต่การเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบมันเริ่มวางขายจริงในประเทศอินเดีย ไปจนถึงการมาโชว์ตัวในประเทศไทย  Suzuki Ciaz  ใหม่ กลายเป็นประเด็นที่ผมให้ความสำคัญ ด้วยส่วนหนึ่งกำลังต้องการรถยนต์สักคันให้คุณแม่ และรถคันนี้ก็เข้าตากรรมการอยู่ไม่น้อย

รถทดสอบ  Suzuki Ciaz  GLX

รถทดสอบ  Suzuki Ciaz  GLX

การมองรถยนต์ให้คุณแม่...เป็นโจทย์ที่ยากยิ่งในการค้นหารถยนต์สักคันที่นอกจากจะต้องโดนใจผู้ใหญ่วัยใกล้เกษียนเพื่อมาป็นรถยนต์คันใหม่ของบ้านเรา จะต้องสามารถใช้งานได้ในหลายๆ ประการ โดยเฉพาะการมีรถยนต์เอาไว้ใช้เข้าเมือง จนกล้าพูดว่า โครงการรถคันนี้เพื่อแม่ ...ไม่ต่างอะไรจากการที่ผมหาผู้หญิงสักคันมาใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งยังอาจจะต้องคอยดูแลท่านในยามเดินทาง....

 

การพบกันครั้งแรกระหว่างผมและ  Suzuki  Ciaz  ส่วนตัวผมแอบเรียกรถคันนี้ว่า “น้องเซียส”  เกิดขึ้นในงานมอเตอร์โชว์  2015   ที่ผ่าน เห็นครั้งแรกก็ยอมรับว่า รถคันนี้ถูกชะตาอย่างมาก ด้วยหน้าตาจิ้มลิ้ม ไม่ขาวมาก.... ให้อารมณ์เซ็กซี่ ...ผมสีแดง พกพาสะดวก ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งหาว่าผมบ้า ...ที่มโนมาทั้งหมดนั่น เป็นน้องที่ให้ข้อมูลรถยนต์  Suzuki  Ciaz   ในบูธ Suzuki  ในงานมอเตอร์โชว์

รถทดสอบ  Suzuki Ciaz  GLX

ทว่าครั้งนี้การมาพบ  Suzuki Ciaz  อีกครั้ง แตกต่างออกไป ผมกำลังเตรียมการจะพา “น้องเซียส” ไปเที่ยวก่อนงานเปิดตัวของเธอที่สยามพารากอน ซึ่งส่วนตัวผมจะได้ ทำความรู้จักกับสาวคนนี้มากขึ้นว่าเธอนั้น ...จะได้มาเป็นรถคู่กาย คนรู้ใจคุณแม่ผมหรือไม่

การออกแบบรถยนต์  Suzuki Ciaz  เป็นเรื่องที่ตลกฮาปนน่ารู้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่จริงความลับของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่พี่   J!MMY แห่ง   Headlightmag.com  เล่าให้ผมฟังว่า มีทีมวิศวกรค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นรายหนึ่งได้มาปรึกษาพูดคุย และได้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนารถยนต์ในแถบๆ บ้านเรา ว่ารถยนต์นั่งซีดานขนาดเล็ก ควรรจะออกมาในลักษณะใด มีอะไรเป็นโจทย์ที่น่าสนใจไปบ้าง

ระดับพี่จิมมี่แล้วมักจะแนะนำส่วนผสมอะไรที่ไม่ธรรมดา หนึ่งในหลายโจทย์ที่เกิดขึ้น ตามที่พี่ท่านเล่าให้กระผมฟัง ก็คือการให้ความลงตัวระหว่างคำว่า “สปอร์ต” กับคำว่า “หรูหรา” เหรียญคนละด้านที่ยากจะบรรจบ แถมยังต่อเติมไปอีกว่า ถ้าประหยัดด้วยจะดีมากๆ...และยังมีอีกหลายอย่างที่จัดให้ทีมวิศวกร  Suzuki  เล็คเชอร์ไปกว่าชั่วโมงเต็ม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2011 ฟังดูขนาดส่วนตัวผมเองไม่ใช่วิศวกรเองยังรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า  กับการพัฒนาสักคันให้ได้ครบครันตามความต้องการที่มากมายของลูกค้า ที่มีในสังคมในตลาดรถยนต์เกิดใหม่

แต่ความท้าทายจากโจทย์ของนักทดสอบรถชาวไทย อย่างพี่  Jimmy  ก็ไม่ได้ทำให้ทีมวิศวกร  Suzuki  ย่อท้อ เพราะหลายวันผ่านไป จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จวบจนปี  2013   Suzuki   เผยตัวตนรถยนต์ต้นแบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Suzuki  Authentic Concept หรือ “รถซีดานขนานแท้” ซึ่งเป็นรถต้นแบบที่เน้นในการสร้างเส้นสายใหม่ที่มีความลงตัวมากกว่าแค่รถที่ดูดี แต่มันเป็นที่สุดของความคิดในการตีความสิ่งที่ลูกค้าต้องการระหว่างความหรูหราให้ลงตัวกับความปอร์ตได้อย่างไม่น่าเชื่อ สะกดสายตาคนที่มองหารถยนต์ซับคอมแพ็คคาร์ที่มีความลงตัวในแบบสไตล์ของความหรูหรา แต่ไม่ดูแล้วผู้ใหญ่เกินไป และยังดูมีความปราดเปรียว เป็นรถในแบบที่ ลูกยืมแม่ขับ หรือแม่ยืมลูกขับก็ได้ทั้งสิ้น ..

 

การออกเดทครั้งนี้ระหว่างผม  และ  Suzuki  Ciaz  จึงเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ใครคนหนึ่งที่มองหาอะไรที่เพอร์เฟ็คลงตัวเหมาะสมกับเรามากที่สุด กับคน ....ไม่สิ รถที่จะสามารถเข้าได้ทั้งกับเรา และแม่ของเรา ...คิดไปแล้ว ครั้งนี้แทบไม่ใช่การทดสอบรถด้วยซ้ำไป แต่มันคือการหาเนื้อคู่ในการขับขี่ มากกว่าในความรู้สึก

 

เจอหน้าครั้งนี้  Suzuki Ciaz  ดูแตกต่างจากที่เป็น เธอทักทายด้วยเส้นสายการออกแบบที่มีความหรูหรา เริ่มต้นจากกระจังหน้าโครเมี่ยม  3  แถบ รวมถึงลายเส้นของฝากระโปรงหน้า ทำให้เราแอบคิดถึงรถยนต์  Suzuki Ertiga  อยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย เสน่ห์ที่เย้ายวนในความหรูรา ถูกผนวกเข้ากับความสปอร์ต สามารถสัมผัสได้ทันทีกับชุดกันชนหน้าใหม่ที่ดีไซน์ให้ดูมีความลงตัว กับโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เน้นทรวดทรงที่ดูปราดเปรียว แหวกแนวแหกคอกออกไปจากรถยนต์  Suzuki Swift   อย่างชัดเจน  น่าเสียดายที่  Suzuki  ไม่คิดจะใส่ไฟ  Day time Running Light มาให้  ไม่งั้นเชื่อว่ารถคันนี้จะดูมีใบหน้าที่ลงตัวกว่านี้

ยืนมอง   45   องศาห่างจากตัวรถบางมุมในการออกแบบของ   Suzuki Ciaz   อาจจะทำให้คุณนึกถึงรถยนต์ตัวหรูชั้นนำ ไม่ว่าจะ   Volvo  หรือ บางครั้งก็อาจจะจินตนาการ Volkswagen  อยู่บ้าง

จากด้านหน้าเส้นสายถูกส่งต่อไปยังด้านข้าง ลากยาวจากด้านหน้าจรดบั้นท้ายด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายผ่านมือจับโครเมี่ยม กระจกมองข้าง มาพร้อมไฟเลี้ยวในตัวเรียบง่ายและลงตัวไม่ต้องพิธีรีตองมากมาย  

Suzuki Ciaz GLX

แล้วปิดท้ายด้วยการออกแบบรถให้ดูมีความลงตัวสมส่วนเรียบง่ายแต่ดูดี และยังมีดีกรีความหรูหราจากช่วงเสาท้ายที่ทำให้ลงตัวในการออกแบบมาดขึ้น ด้วยการออกแบบให้ท้ายรถทีความโค้งมลมีประโยชน์มากกว่าแค่ความสวยงมเนื่องจากช่วยเพิ่มแรงกดในระหว่างการขับขี่และ ลดลมหมุนจากบั้นท้ายรถ แต่งแต้มด้วยไฟท้ายขนาดใหญ่ ให้ความสปอร์ตกับ ทำให้บั้นท้ายดูอวบอัดมากขึ้น เพียงเท่านี้  Suzuki  ciaz  ก็เป็นรถที่ดูดีงามขึ้นมามากมาย ....

ทั้งหมดลงตัวในขนาด ด้วยความยาว  4,490 มม.  กว้าง  1,730  มม.  สูง  1,475  มม.  และมาพร้อมฐานล้อยาว   2,650   มม. ที่กำลังพอเหมาะพอดีทั้งการใช้งานในเมืองและนอกเมือง 

เปิดประตูก้าวสู่ห้องโดยสาร  Suzuki Ciaz  ทักทายด้วยดีกรีความสปอร์ตในจิตวิญญาณ ที่จริงแล้วแนวการออกแบบข้างนอกอาจจะดูไม่น่าจะไปได้กับภายใน แต่กลับรู้สึกว่าการพยายามผสมผสานของค่าย Suzuki   มุ่งเน้นตอบโจทย์ตัวตนรถในความสปอร์ตหรู

น่าเสียดายว่าแม้จะเปิดตัวออกเป็นรุ่นท๊อปสุดในเวลานี้ Suzuki Ciaz GLX ก็ยังให้เพียงเบาะนั่งผ้าสีดำ ตัวเบาะออกแบบมาค่อนข้างดีมีขนาดพอสมควรไม่เล็กเกินไปใหญ่เกินไป จนผู้ทดสอบอย่างผมที่มีความสูง 182  ซ.ม. หนัก  85  กก. ไม่รู้สึกอึดอัด เบาะนั่งสามารถนั่งได้อย่างสบายปรับสูงต่ำได้

เหลียวมองทางด้านหลังมีพื้นที่ในการโดยสารเหลือเฟือ ลองไปนั่งตอนหลงดู ค้นพบว่า การเข้าออกตอนหลังนั้นทำได้ง่ายพอตัว คนตัวสูงอาจจะต้องระวังเวลาลุกขึ้นเข้า-ออกเล็กน้อย และเมื่อได้ท่านั่งแล้วพื้นที่วางขา และพื้นที่ช่วงเข่ามีมาพอสำหรับคนตัวใหญ่อย่างผู้เขียนจะใช้พำนักและโดยสารตลอดการดินทาง

Suzuki Ciaz GLX

น่าเสียดายที่ Suzuki  ดันกระเบียดกระเสียนงกออพชั่นบางจุดไปอย่างน่าเสียดาย เริ่มจากหมอนรองคอชิ้นเดียวที่ไม่สามารถปรับสูงต่ำได้ หรือใครทีเป็นนักกิจกรรมทั้งหลายคงจะพยายามมองหาฟังชั้นที่ทำให้คุณขนของได้มากกว่า อย่างการพับเบาะนั่งในอัตรา   60/40  ที่มีมาให้รถในสมัยนี้ คงต้องของแสดงความเสียใจ เพราะเบาะนั่งตอนหลังน้องเซียสใหม่นี้ ไม่สามารถปรับพับได้ แต่กลับกันคุณจะได้คุณภาพในการนั่งอย่างดีเลิศประเสริฐศรี เป็นรถที่เหมาะไปเอาใจพ่อตาแม่ยายอย่างยิ่ง...ส่วนห้องสัมภาระท้ายพอที่จะจุข้าวของมากถึง   565  ลิตร มากพอจะเอากระเปาเดินทางของผู้โดยสาร 5  ยัดใส่รวมกัน

กลับมาด้านหน้านั่งในตำแหน่งคนขับ   Suzuki Ciaz   แนะนำสัมผัสในการขับขี่ด้วยพวงมาลัย 3  ก้านในรุ่น  GLX   ให้แบบหุ้มหนังมาเสร็จสรรพให้สัมผัสวัสดุที่ดี ส่วนรุ่นอื่นจะเป็นพวงมาลัยยูรีเทนธรรมดา

Suzuki Ciaz GLX

Suzuki Ciaz GLX

การออกแบบพวงมาลัยแบบสามก้านมีปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงทางด้านขวา และใต้ลงมาจะมีปุ่มควบคุมการรับ-วางสายโทรศัพท์ รวมถึงควบคุมการทำงานของระบบ   Bluetooth    เชื่อมการทำงานกับระบบเครื่องเสียงที่วางไว้ที่คอนโซลกลาง

ตรงหน้าคนขับให้วัดรอบสีเทากลางวันดูและก็คงรู้สึกเฉยๆ ไม่สวยง่าอะไรมาก แต่พอกลางคืนเท่านั้นแหละการจัดวางองค์ประกอบไฟในมาตรวัดรถ  Suzuki Ciaz  ชนะเลิศด้วยความเรียบง่ายแต่ดี ตรงกลางมีหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่ต้องการไม่ว่าจะอัตราประหยัดเฉลี่ย ,ระยะทางที่เหลือ รวมถึงอุณหภูมิภายนอก และที่น้องเซียสดีงามที่สุดคือการให้มาตรวัดความร้อนติดตัวมาด้วย เรียกว่าไม่ต้องสร้างความฉงนกังวลใจกับใครหลายคนอีกต่อไป

กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ออกเดินทาง ใต้เรือนร่างแสนงาม  Suzuki  นำขุมพลังใต้ฝากระโปรงของ  Suzuki Ciaz  ด้วยเครื่องยนต์  รหัส K12B  ต้นกำลังแบบ  4  สูบแถวเรียงขนาด  1.25  ลิตร ให้กำลังสูงสุด  91  แรงม้า ที่  6,000 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุดถึง  118   นิวตันเมตรที่   4,800 รอบต่อนาที

Suzuki Ciaz GLX

พละกำลังขับเคลื่อนทั้งหมดถูกส่งลงบนชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT  7  สปีด ด้วยการตอบสนองอัตราทด 4.006-0.550   ขับเคลื่อนลงบนเฟืองท้าย  3.757   ซึ่งเป็นชุดเกียร์เดียวกับที่ใช้งานในรถยนต์  Suzuki Swift  ใหม่ แต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กว่า  Swift   พอสมควร ทำให้ทางทีมวิศวกรมีการปรับเรื่องการตอบสนองของชุดเกียร์โปรแกรมเกียร์เพิ่มเติม รวมถึง   Suzuki   ยังยืนยันว่ามีการปรับการตอบสนองของเรื่องยนต์ใหม่เพื่อให้มีความเหมาะสมกับรถมากขึ้นด้วย

ขนาดที่ใหญ่ขึ้นพอสมควร จนไม่น่าจะต้องเอา   Suzuki Ciaz ขึ้นชกท้าชนกับรถยนต์อีโค่คาร์กลุ่มเดียวอาจจะสร้างความกังวลใจให้กับหลายคนไม่น้อย ตอนพิจารณาขนาดตัวรถกับเครื่องยนต์ของ  Suzuki ciaz   ว่ามันจะไปกันได้หรือไม่ แต่ขนาดที่ใหญ่ขึ้น รถยนต์ Suzuki Ciaz  กลับมีพิกัดมากกว่ารถยนต์   Suzuki  Swift  เฉลี่ยเพียงรุ่นละ  10  กิโลกรัมโดยประมาณ (เปรียบเทียบระหว่าง  Suzuki  Swift  GLX   ที่มีน้ำหนัก  975  กก.  และ  Suzuki  Ciaz  GLX   985 กก.) นั่นเท่ากับเด็ก 4 ขวบ อีกคนที่เข้ามาเป็นผู้โดยสาร ซึ่งก็ไม่น่าจะเห็นผลมากในเรื่องของการขับขี่

ความกลัวอืดที่ติดอยู่ในใจทุกอย่าง น้องเซียสให้คำตอบในการขับขี่ว่า เธอคือสาวมั่น ปราดเปรียว และพร้อมจะเปรี้ยวจี๊ด ถ้าคุณมีโอกาสพาเธอซิ่ง ไม่ยี่หระในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ แม้จะมีทรวดทรงองค์เอวจะสะบึมกว่าคู่แข่งมากพอสมควร ก็ตามที

 สัมผัสแรกใน “น้องเซียส” กลับกลายเป็นความรู้สึกในการตอบสนองที่ดี รถออกตัวด้วยความกระฉับกระเฉงอย่างไม่น่าเชื่อในความรู้สึกตัวเอง จากขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่าเดิม  Suzuki  Ciaz  กลับชนะเลิศกว่า   Suzuki  Swift   ด้วยการทำงานอย่างหนักของทีมวิศวกรที่ตัดสินใจใช้ล้ออัลลอยขอบ  15   นิ้วที่มาพร้อมยาว 185-65-R15 แทนการใช้ล้ออัลอขอบ  16 นิ้วที่มาพร้อมยาง 185-55-R16   ซึ่งส่งผลค่าหน้าสัมผัสยาง (Tread Width) ในรถยนต์   Suzuki Ciaz  น้อยกว่า Suzuki  Swift   และมีผลทันทีต่อความรู้สึกในการขับขี่

ข้อดีอีกประการของการปรับชุดล้อและยางใน  Suzuki Ciaz จากล้ออัลลอยขอบ  16   นิ้วใน  Suzuki Swift  มาเป็น  15 นิ้วใน   Suzuki  Ciaz  คงไม่พ้นสัมผัสของระบบกันสะเทือนที่จะรู้สึกได้ทันทีว่า  Suzuki Ciaz ใหม่เป็นรถที่ขับได้สบายตูดมาก เรื่องการกระแทกกระทั้นของระบบกันสะเทือนของระบบช่วงล่างออกไปในแนวทาง ให้ความนุ่มสบาย แต่ยังคงความมาดมั่นเหมือนเดิม จากการนำวิธีการออกแบบระบบกันสะเทือนของ   Suzuki  Swift  มาใช้ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่มั่นคงแน่นหนึบ แต่  Ciaz   ยังแถมฟรีความสบายในยามขับขี่มาด้วย ซึ่งประเด็นสำคัญก็มาจากชุดยางที่มีแก้มสูงขึ้นเป็น   185/65/R15  แทนที่จะเป็น  185/55/R16 เหมือนใน  Suzuki Swift   แต่ก็ต้องยอมรับว่า ล้อและยางที่ต่างกันนี้จะมีผลอย่างแน่นอนเมื่อคุณเริ่มใช้ความเร็ว

การวิศวกรรมที่เปลี่ยนไป ในรถยนต์ Suzuki Ciaz ส่งให้เมื่อเทียบกับ  Swift   เจ้าซีดานกลับให้ความลื่นไหลกว่าในยามขับขี่ รวมถึงยามขับขี่ในเมืองที่ส่วนใหญ่เป็นการใช้ความเร็วต่ำไปถึงความเร็วปานกลาง การให้น้ำหนักพวงมาลัยอยู่ในระดับที่กำลังดีพอสมควร ไม่หนักไปสำหรับสาวๆ หรือ เบาไปสำหรับท่านชาย การบังคับควบคุมเองทำได้ดีพอสมควร จังหวะฟรีพวงมาลัยมีน้อยมาก แถมเน้นไปที่การควบคุมที่มีความแม่นยำ เพียงคุณหมุนเปลี่ยนทิศทางเพียง 1-2   องศาเท่านั้น รถ Suzuki Ciaz ก็พร้อมจะไปได้ดั่งตามใจคิด ซึ่งลักษณะพวงมาลัยแบบนี้โดยมากจะเป็นบุคลิกของรถสปอร์ตมากกว่า แต่ให้ตายเถอะนี่กำลังสัมผัสมันได้จากรถยนต์อีโค่คาร์

Suzuki Ciaz GLX

ความลงตัวในการวิศวกรรมปรับเครื่องยนต์ ที่สัมพันธ์กับการเลือกใช้ล้อและยางมที่เหมาะสม ไปจนถึงการปรับพวงมาลัยในการบังคับทิศทางให้ความง่ายและแม่นยำในการควบคุม กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างมากต่อการใช้งานเมือง

ตลอดระยะเวลากว่า 2 วันที่ขับ   Suzuki  Ciaz  ในกรุงเทพมหานคร เจ้าซีดานหรูคันนี้ตอบความลงตัวให้ความมั่นใจทุกครั้งที่ขึ้นขับด้วยความกระฉับกระเฉงในการตอบสนองของเครื่องยนต์ รวมถึงการบังคับควบคุมที่แม่นยำ อย่าแปลกใจ!!! ถ้าทุกครั้งที่คุณขึ้นขับ   Suzuki Ciaz   จะกลายเป็นคนสันดานเสียนักมุดตัวยงบนถนนเมืองกรุง ยิ่งถ้าเข้าใจรถเป็นอย่างดีมีประสบการณ์คู่เจ้าซีดานคันนี้มากพอ ในหลายจังหวะที่ต้องการความมั่นใจในการมุด แนะนำให้ลั่นปุ่ม  Over Drive ที่ข้างหัวเกียร์เพื่อรีดสมรรถนะออกมาอย่างรวดเร็ว  ... น้องเซียส ก็เป็นรถทียากจะตามทัน ...

ความลงตัวในการใช้งาน บรรจบความสนุกสนานในการขับขี่ ถึงเวลาที่ Suzuki Ciaz  จะได้เวลาตอบคำถามเรื่องของความประหยัดน้ำมัน ในการใช้งานในเมือง ซึ่งในการทดสอบครงนี้   Suzuki   แจ้งว่าพวกเขาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์   95  มาให้เรา แต่มีเจอปนด้วยน้ำมัน  E20   บ้างเล็กน้อย และจากการใช้งานในเมืองกว่า 69.2  กิโลเมตร ในสภาพการใช้งานจริงในเมือง ที่มีทั้งรถติดมหาศาล ตลอดจนการใช้งานทั่วไปเข้า-ออกตามห้างที่คุ้นเคย Suzuki Ciaz   ซดน้ำมันไป   7.21  ลิตร 

เราสรุปตัวเลขอัตราประหยัด  Suzuki Ciaz กับการใช้งานจริงในเมือง  ที่  9.59   ก.ม./ลิตร  อาจจะฟังดูแล้วไม่ประหยัดเท่าไร ไม่สมความเป็นรถยนต์อีโค่คาร์ แต่ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ถนนคนเมืองขับไปไหนรถก็ติดทั้งสิ้น แถมติดมันทุกเวลาด้วย ซึ่งถ้าย้อนเทียบกับ  Suzuki  Swift   ในสภาวะเดียวกัน   Suzuki Swift   ตกเป็นรองอย่างชัดเจน (เคยทดสอบ Suzuki Swift   ในสภาวะรถติด ได้ ตัวเลข   8  ก.ม./ลิตรกลางๆ)

ภาวะรถติดในเมืองอาจจะทำให้หลายคนเห็นตัวเลขอัตราประหยัดแล้วแอบตกใจไปพอสมควร กับผลการทดสอบทีออกมา แต่ในภาพรวมอัตราประหยัดเฉลี่ย เรายังคงพึ่งผลการทดสอบจากการขับขี่ไปตามเส้นทางของ   Bonn Test Mode  

ค่ำคืนอันแสนมืดมด ณ ปั้มแห่งหนึ่ง เราวนเจ้า   Suzuki  เข้ามาเติมน้ำมันเต็มถัง เด็กปั้มจำหน้าได้ พร้อมคำแซวชวนหัว ว่า..”เดี๋ยวเจอกันครับพี่!! “ เสร็จสรรพครบถ้วนกระบวนการจ่ายเงินเราออกเดินทางใน   Suzuki  Ciaz   ตามเส้นทางที่กำหนด เอาไว้

เส้นทางที่ผสานการขับขี่ระหว่างรูปแบการทดสอบในเมืองและการขับขี่นอกเมือง เป็นโจทย์ที่จะตอบความลงตัวทางด้านความประหยัด ด้วยรูปแบบเส้นทางถนนหลวง ซึ่งในช่วงแรกของการเดินทางเรากำหนดความเร็วไม่เกิน  120   ก.ม./ช.ม. ซึ่งการขับบนถนนเปิด Suzuki Ciaz  เริ่มแสดงตัวตนที่น่าสนใจยามเดินทางไกล มันเป็นรถรถยนต์คันหนึ่งที่มีความนิ่งนาขับขี่ ข้อดีที่สังเกตได้เมื่อใช้ความเร็วสุดเพดานการทดสอบตามข้อกำหนดของเราคือการการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่ดีกว่ารถยนต์ซับคอมแพ็คคาร์บางรุ่นด้วยซ้ำไป

ไม่ว่าจะการเก็บเสียงลมจากชุดเสาหน้า หรือเสียงล้อและยางในระหว่างที่คุณกำลังเดินทางไปยังปลายทาง ขอซูกฮกว่า   Suzuki Ciaz   ทำได้ดีเกินความคาดหมายที่เราหวังเอาไว้ อย่างที่ความเร็ว  120  ก.ม./ช.ม.  รถแทบไม่มีเสียงลมเข้าเลยด้วยซ้ำไป จนกล้าพูดว่ามันมีดีเท่าซีดานคอมแพ็คบางคันด้วยซ้ำไป

ใช้เวลาไม่นานการทดสอบก็เข้าสู่การขับขี่ในเขตเมือง เหมือนเดิมการจราจรในช่วงค่ำคืนสมัยนี้ก็ใช่ว่าจะวางใจได้ แม้ว่าจะดึกดื่นราวๆ  4  ทุ่มเศษของคืนวันทดสอบ Suzuki Ciaz  ก็ยังต้องแน่นิ่งท่ามกลางการจราจรใจกลางเมือง อยู่บ้างเป็นบางจังหวะจนทำให้เรานึกถึงระบบหยุดการทำงานอัตโนมัติของเครื่องยนต์  idling Stop  ที่สมควรจะใส่เข้ามา เพื่อตอบความประหยัดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับเมืองไทยมันมักจะเป็นคำครหาเรื่องของความไม่สบายในการขับขี่

ทว่าในอีกด้านส่วนตัวเราเองกลับมองว่า ระบบ idling  Stop   ควรใส่มาให้เพื่อเพิ่มความประหยัดสูงสุดในระหว่างการขับขี่ โดยเฉพาะ ส่วนใครจะใช้หรือไม่ใช่ ก็สุดแท้แล้วแต่...แบบนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า หรือเปล่า !!

ไม่นานเราหลุดจากช่วงการจราจรอันจอแจในเมือง วนตามเส้นทางที่กำหนดเอาไว้มายังปลายทางเข้าเติม ณ ปั้มเดิม หัวจ่ายเดิม เราจัดน้ำมันไปเพียง   4.297  ลิตร ในระยะทาง   67  กิโลเมตร  สรุป  Bonn   Test Mode  รถยนต์   Suzuki Ciaz   ทำได้   15.59   ก.ม./ลิตร

เมื่อมองอัตราประหยัดในภาพเฉลี่ยรวมจาก  Bonn Test Mode ส่วนหนึ่งเราสังเกตในระหว่างช่วยการขับขี่นอกเมืองว่า Suzuki Ciaz ใหม่ใช้รอบเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างต่ำ ด้วยการทำงานที่ความเร็ว   90  ก.ม./ช.ม. เพียง   1,500 รอบต่อนาที  และที่ความเร็ว  120  ก.ม./ช.ม.   ก็ใช้รอบเครื่องยนต์เพียง   2,300 รอบต่อนาที เท่านั้น

การตอบโจทย์ดังกล่าวทำให้ การนำ  Suzuki Ciaz  ขับออกนอกเมืองกลายเป็นความสุนทรีย์อย่างหาที่สุดไม่ได้  คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องราวของอัตราประหยัดน้ำมันในอีโค่คาร์คันนี้ สามารถขับได้อย่างสบายใจ ในยามเดินทาง

การทำความเร็วสูงสุดในรถยนต์  Suzuki Ciaz GLX

ด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้อาจจะไม่มีมีโอกาสเอาเจ้า  Suzuki Ciaz เดินทางไกลจริงจัง แต่จากขับทดลองออกเดินทางไกลในเป้าหมายใกล้ๆ  จากปากเกร็ด, นนทบุรี ไปยังปลายทางอำเภอพนมทวน จังหวัด กาญจนบุรี  

เจ้ารถยนต์  Suzuki Ciaz  ใหม่ เผยตัวตนความสบายในการเดินทางประดุจซีดานหรูชั้นนำ ด้วยความสบายจากการเซทระบบกันสะเทือน ทำให้ความรู้สึกในห้องโดยสารนิ่งและนุ่มนวล ช่วงการยืดและยุบตัวของโช๊คอัพรถทำได้ดี ตอบสนองได้ค่อนข้างรวดเร็วพอสมควร จนออกไปในทางความสปอร์ตพอสมควร คุณจะไม่รู้สึกยี่หระกับช่วงอาการกระโดดคอสะพาน หรือผ่านทางขุรขระการทำถนน แต่ในภาพรวมยังคงความนิ่มให้ความรู้สึกสบายในการโดยสารเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

ในขณะที่การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารก็โดดเด่นมากพอสมควร และยืนยันว่าการ การใช้ความเร็วที่ 120  ก.ม/ช.ม.จะไม่มีเสียงลมเข้ามากวนใจจนต้องเพิ่มการเปล่งเสียงวาจาเพื่อสนทนากันภายในรถ  ส่วนหนึ่งอาจจะด้วยความพยายามอย่างพิถีพิถันของทีมวิศวกร   Suzuki  ที่ต้องการออกแบบรถให้มีหลักการอากาศพลศาสตร์มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และชื่อหรืว่า พวกเขาทำสำเร็จ เพราะ Suzuki Ciaz  มีค่าสัมประสิทธิ์เสียดทาน 0.29  ซึ่งหากกล่าวแล้ว   Suzuki Ciaz   อาจจะเป็นที่มีความเพรียวลมที่สุดของค่ายรถยนต์รายนี้เลยทีเดียว

น่าเสียดายที่การเดินทางนอกเมืองทำห้าพอจะสัมผัสได้ว่า  Suzuki Ciaz ยังขาดบางสิ่งบางอย่างที่น่าจะพอให้มาตอบโจทย์ได้อย่างระบบ   Cruise Control   ซึ่งจะทำให้รถมีความสะดวกสบายในการขับขี่มากขึ้น ในยามที่ต้องเดินทางไกล รวมถึงการล็อกความเร็วด้วยระบบไฟฟ้า จะทำให้มีความเสถียรในการเดินคันเร่งมากขึ้น ส่งผลโดยตรงต่ออัตราประหยัด น้ำมัน

แต่ถึงแม้วันนี้  Suzuki Ciaz  จะยังไม่มีระบบเช่นนี้มาให้ แต่การเดินทางของเราที่มีพื้นฐานความเร็ว   120-140   ก.ม-ช.ม. พร้อมเหมาะรวมการทำความเร็วสูงสุดหนึ่งรอบ ได้ตัวเลข  180 ก.ม./ช.ม.   การเดินทางครั้งนี้จบลงด้วยระยะทาง 230.1  ก.ม.  และยังมีน้ำมันเหลือวิ่งได้อีก 365   ก.ม.  และเราจบอัตราประหยัดของ   Suzuki Ciaz  ที่ 14.1  ก.ม./ลิตร

 

ลองโหดสมรรถนะ ที่สุดความลงตัว ....

 

น้ำมันที่เหลือมากมาบนเป็นทุ่งในถังน้ำมัน ทำให้ท้ายที่สุดแล้วเรามีโอกาสที่จะขับแบบจัดหนักจัดเต็มในรถยนต์   Suzuki Ciaz โดยไม่ต้องแคร์เรืองของความประหยัดอีกต่อไป

เกมสมรรถนะเริ่มขึ้น ด้วยความลงตัวอยู่แล้วของ   Suzuki  Ciaz  กับการขับขี่ใช้งานตลอดระยะเวลากว่าสองวันเต็ม ทำให้วันที่สามรถยนต์อีโค่คารฺซีดานน้องใหม่ถูกพิสูจน์ทุกอนูในการขับขี่ในการใช้งานอย่างเต็มที่ ด้วยขับขี่ที่คุณอาจจะต้องงัดวิชามารออกมาใช้ในยามที่เร่งรีบ ไม่ว่าจะทะเลาะกับแฟน แม่ป่วย ญาติเสีย ....จนคนบนถนนอาจจะต้องด่าแม่กันบ้าง

เมื่อเข้าสู่สปอร์ตโหมดผผ่านคนขับที่อาจจะต้องเร่งรีบในการทำธุระบางอย่าง  Suzuki Ciaz กลายเป็นรถยนต์ที่มีให้ความลงตัวในเรื่องการขับขี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการควบคุมที่มีความแม่นยำและลงตัวอย่างมาก จากพวงมาลัย เป็นข้อดีที่สำคัญ ที่ทำให้  “เซียส” มีเสน่ห์ของความลงตัวในการขับขี่ด้วยการควบคุมที่แม่นยำ แม้ว่าในแง่หนึ่งของการให้พวงมาลัยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า คือในสายตาบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันยังไม่ดูเป็นธรรมชาติสู่ การควบคุมแบบไฮโดรลิกดั้งเดิมไม่ได้

Suzuki Ciaz GLX

ยิ่งในยามที่คุณปฏิบัติการซิ่งเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเอาชีวิตตัวเองมาแขวนไว้บนเส้นด้าย การควบคุมทิศทางที่ผิดหรือให้ความรู้สึกในการตอบสนองไม่ดีอาจจะหมายถึงหายนะ อย่างเช่นที่ผมกำลังพาเจ้า Suzuki Ciaz คันนี้ ลองมุดซ้ายขวา บนทางด่วนในวันอาทิตย์ ซึ่งมีรถไม่เยอะมากมายแบบนี้  แต่ในความคิดส่วนตัวกลับมองว่า พวงมาลัยของ  Suzuki Ciaz เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

ถึงความรู้สึกในการใช้พวงมาลัยจะดูไม่มีชีวิตชีวาไปบ้าง แต่เมื่อเอาความแม่นยำและน้ำหนักพวงมาลัย ทั้งการขับขี่ที่อาจจะต้องเปลี่ยนช่องจราจรบ่อยในความเร็วต่ำ ไม่เกิน   100  ก.ม./ช.ม. ส่วนในยามที่คุณใช้ความเร็วสูงตั้งแต่ 120  ก.ม./ช.ม. ขึ้นไปพวงมาลัยจะมีอาการเบาขึ้นเล็กน้อย แต่การตอบสนองจะยังเป็นเดิม ส่วนหนึ่งด้วยหน้ายางที่เป็นล้ออัลลอย ขอบ  15  นิ้ว อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเล็กน้อยถ้าคุณอยากจะทำความเร็ว

ด้านเครื่องยนต์ Suzuki Ciaz เองมีการตอบสนองค่อนข้างดีเยี่ยมยามที่คุณจะมุดซ้ายไปขวา ส่วนตัวผู้เขียนเป็นคนที่มีสไตล์ขับใช้จังหวะไหลเข้าหาช่องว่าง ซึ่งแต่ละคนอาจจะมีสูตรสำเร็จในการขับรถยามบ้าบิ่นที่แตกต่างกันไป โดยสิ่งที่น่าชื่นชมใน ซีดานคันนี้มากที่สุดคือชุดเกียร์ที่ไม่มีอีกแล้ว อาการกระเด้าเกียร์น่ารำคาญใจ รถสามารถเร่งได้อย่างนุ่มนวลและรุนแรง จะดีกว่าถ้าในยามหน้าสิ่วหน้าขวานคุณปลดโหมด  Over Drive   เพื่อให้รถเร่งอย่างเร้าใจทันใจ จนกล้าพูดว่า รถคันนี้เป็นรถที่พร้อมทะยานไปได้ทุกรูบนถนน ถ้าคุณรู้จักจังหวะการเร่งที่ดีพอ

Suzuki Ciaz GLX

จนบางทีคุณอาจจะทำให้เพื่อนร่วมทางหมั่นไส้อย่าง ระหว่างที่ผมกำลังทำการทดสอบ  Suzuki Ciaz ก็มีเจ้า   Mitsubishi Attrage  Ralli Art Edition  มาขอลองท้าดวลวิชาความเร็ว ซึ่งที่จริงบนถนนนั้นไม่ใช่สนามแข่งขัน แต่คนสมัยนี้ต้องอับว่าจิตไม่ว่างเยอะแยะ บางคนอ้างเพื่อปราบเกรียนผดุงความยุติธรรม ซึ่งบางครั้งคุณไม่มีทางที่จะรู้ว่า คนเราขับรถเร็วเพราะอะไร บางครั้งเขาอาจจะรีบไปธุระ บางครั้งเขาอาจจะปวดขี้ ...ซึ่งบางทีไม่ต้องจิตไม่ว่างมานั่งไล่บี้ เพียงเพื่อโชว์ว่า “ฉันก็เร็วได้เหมือนกันนะเว้ย!!!”

อย่างไรก็ดี หลังจากปราบ   Mitsubishi Attrage Ralli Art Edition  ให้หายซ่า!!! ก็ได้เวลาที่เราจะมาทดสอบอัตราเร่ง ของ  Suzuki Ciaz ถนนเส้นเก่าย่านบางปะหันเวลาเดิม

 

ตารางแสดงการทดสอบอัตราเร่งรถยนต์   Suzuki Ciaz GLX

 

ครั้งที่ 1

ครั้งที่ 2

ครั้งที่ 3

เฉลี่ย

อัตราเร่ง  0-100 ก.ม./ช.ม.

11.61

12.01

11.95

11.86

อัตราเร่ง  80-120 ก.ม./ช.ม.

9.80

10.00

11.00

10.27

 

จากการทดสอบอัตราเร่ง   Suzuki Ciaz   เป็นที่ชัดเจนว่า สมรรถนะของเครื่องยนต์  K12B   ใน Suzuki Ciaz  นั้นมีความเร่าร้อนในตัวมันเองเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ระดับ  1.5   และ   1.6   ลิตร โดยในอัตราเร่งที่มีตัวเลขคล้ายกันมากที่สุดจากการทดสอบที่ผ่านมาของของเราก็คือ  Nissan  Juke  รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2015  ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด   1.6   ลิตร

 

ตารางแสดงอัตราเร่ง คู่แข่ง  H  

 

ครั้งที่ 1

ครั้งที่ 2

ครั้งที่ 3

เฉลี่ย

อัตราเร่ง  0-100 ก.ม./ช.ม.

13.01

12.92

13.02

12.98

อัตราเร่ง  80-120 ก.ม./ช.ม.

6.20

6.90

7.00

6.70

 

ส่วนในรถยนต์กลุ่มซับคอมแพ็คคาร์ด้วยกัน เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับบางรุ่น ที่มีขนาดใกล้เคียงกันในด้านขนาดแต่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5   ลิตร และระบบเกียร์ CVT  กลับพบว่า  Suzuki Ciaz   กลับทำอัตราเร่ง  ได้ดีกว่าอย่างชัดเจน  โดยเฉพาะในอัตราเร่ง   0-100  ก.ม./ช.ม.  แต่เมื่อมาดูตัวเลขในอัตราเร่ง  80-120  กม./ช.ม. ยังไงเสียเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่าก็ย่อมจะมีการตอบสนองดีกว่า  ในการใช้งาน

เพียงแต่ใน Suzuki Ciaz  การนำโครงสร้างตัวถังที่มีน้ำหนักเบามาเล่นทางด้านสมรรนถะ ด้วยพิกัดเพียง   985  กก.  กลายเป็นทางออกที่ทำให้รถคันนี้มีสมรรถนะดีเกินตัว

 

สรุป.....ลงตัวกว่าที่ Suzui Ciaz   ใหญ่ หรูหรา ครบเครื่องเรื่องสมรรถนะ

หมดเวลาสนุกแล้วสิ..หมดเวลาสนุกแล้วสิ ....ผมนึกถึงประโยคนี้จากการตูนเทเลทับบี้ทันที เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีจะต้องจากลาใครสักคน....เอ้ย! คันที่เข้ากับเรา  Suzuki Ciaz เป็นหนึ่งในรถยนต์หลายคันที่รู้สึกแอบอยากยึดไว้ขับต่อ และรู้สึกใจหายเมื่อรู้ว่าต้องส่งสาวเจ้าคืนสำนัก  Suzuki

ตลอดระยะเวลาที่ผมควงน้องเซียส ออกเดินทาง รถยนต์นั่งซีดานคันนี้มีดีหลายอย่าง....มากกว่าที่คาดเอาไว้ อย่าให้เธอเอาภาพลักษณ์ภายนอกที่เป็นสาวร่างใหญ่กับหัวใจเล็กสุดประหยัดมาหลอกคุณได้ ถ้ายังไม่มีโอกาสลองขับ เพราส่วนตัวกล้าพูดว่า  Suzuki Ciaz   เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีสมรรถนะที่ดีงามเกินตัว

Suzuki Ciaz GLX

อัตราเร่งจากเครื่องยนต์  1.25   ลิตร ไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่หลายคนคาดเอาไว้ ด้วยการออกแบบระบบวาล์วแปรผันให้มีการตอบสนองทั้งทางด้านไอดีและไอเสีย รวมถึงการปรับแต่งจูนสมองกลเกียร์ ที่สัมพันธ์กับการปรับเปลี่ยนการใช้ล้อและยางที่ไม่มีความกว้างมากเกินไปจนรู้สึกว่ารถดูอืดอาดตามที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้

แต่ว่าการใช้ยางประหยัดน้ำมัน  Ecopia  เข้ามาถือว่าเป็นจุดบอดข้อสำคัญในตัวรถ ด้วยข้อจำกัดของยางที่เกิดขึ้นมาเพื่อเน้นการทำอัตราประหยัดน้ำมันมากกว่า ทั่งที่รถควรจะสามารถเข้าโค้งได้ดีกว่านี้จากความรู้สึกที่สามารถสัมผัสได้จากระบบกันสะเทือนที่เซทมาแข็งกว่า  Suzuki Swift   เล็กน้อย และยังมีการปรับค่ายืดและยุบของโช็คที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม อีกเล็กน้อย

ทว่าระหว่างการทดสอบเราก็ลองพยายามที่จะค้นหาความสามารถสูงสดของยาง  Ecopia  และค้นพบว่ายางประหยัดน้ำมันชุดนี้ก็ไม่ขี้เหร่ อย่างที่คิด ด้วยความสามารถของมันดีพอจะให้คุณดัน  Suzuki Ciaz   เข้าโค้งที่ตัดจากถนนมอเตอร์เวย์เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจุดนั้นจะมีโค้งกว้าง  180  องศา  สามารถพอที่จะทำความเร็วได้ และมีโอกาสลองมาแล้วว่ายางเดิมรถเดิม นั่งสองคนสามารถเข้าโค้งดังกล่าวที่ความเร็ว   100  ก.ม./ช.ม.  ก็พอจะไปวัดไปวาได้ แต่จะดีกว่า ถ้า เปลี่ยนยางที่ดีกว่า

Suzuki Ciaz GLX

สำหรับในเรื่องอื่นมีเพียงการอยากให้เพิ่มเติมออพชั่นบางส่วนเข้ามามากกว่า อย่างเช่นไฟหน้าแบบ   HID   หรือเอาออพชั่นความหรูง่ายๆไฟ   Daytime Running Light  ก็จะยิ่งช่วยทำให้รถยนต์ Suzuki  Ciaz   มีความลงตัวในความคุ้มค่าในสายตาผู้ซื้อมากขึ้น

ส่วนภายในห้องโดยสารลงตัวดีอยู่แล้วในเรื่องของการออกแบบ โดยเฉพาะพื้นที่นั่งตอนหลังที่มีความสะดวกสบาย ก็อยากจะวอน Suzuki  ว่าควรจะพิจารณาหมอนรองคอผู้โดยสารตอนหลังแบบที่สามารถปรับยืดขึ้น-ลงได้ และรวมถึงเบาะนั่งหลังความจะสามารถปรับพับได้ในอัตรา  60/40   เนื่องจากค่ายรถยนต์ทุกเข้าที่ออกซีดานใหม่ๆมาในทุกวันนี้ สามารถทำให้เบาะนั่งพวกเขา ปรับพับเพื่อการใช้สอยบางประการได้ยามจำเป็นได้ ตามความต้องการของลูกค้า

และท้ายสุดรถคันนี้เข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบ แต่ไม่สมบูรณ์แบบ ทั้งที่จะมีมาให้ก็ได้อย่างระบบ   Cruise Control รวมถึงแป้นเกียร์มือแตะ  Paddle   Shift   ..เหล่านี้อยากให้  Suzuki  นำกลับไปพิจารณา

Suzuki Ciaz   เป็นรถยนต์นั่งซีดานกลางขนาดเล็กที่มีความลงตัวเกินคาด แต่อย่างที่เรากล่าวไป มันยังไม่สมบูรณ์แบบในด้านการขาดบางออพชั่นที่สมควรมีมาให้ และมันคงไม่ได้ทำให้ราคารถแพงขึ้นไปมากกว่านี้อีกมากมาย เข้าใจว่าบางทีอาจจะมองว่าไม่จำเป็นที่ต้องจัดออพชั่นดูดีอะไรมากในรถยนต์อีโค่คาร์ในแง่ของการเอาใจผู้บริโภคที่เดี๋ยวนี้มีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดยิบเจ้า Suzuki Ciaz   กลับตกเป็นมวยรองในเรื่องออพชั่นบางอย่างทั้งที่จริงก็มีดีหลายอย่างในตัวมันเอง

สำหรับผมกับภารกิจตามหารถให้คุณแม่ จบลงแล้ว  Suzuki Ciaz   เป็นสาว..ไม่สิ รถ ....เอาใจผมไปครองอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความลงตัวในเรื่องการใช้งาน ความสะดวกสบายในการโดยสาร ความนุ่มนวลในการขับขี่ และความดูดีภูมิฐานยามขับขี่และวางใจเธอได้ยามต้องเร่งรีบ แถมยังประหยัดในระดับที่น่าพอใจ ....

 

สาวคนนี้เธอดูแลได้ขนาดนี้ เป็นคุณจะไม่ไปสู่ขอหรือ ....สำหรับผม....จบการทดสอบก็ตัดสินใจแล้วว่าจะให้เธอช่วยดูแลคุณแม่ ...ผม  ยามที่ท่านต้องใช้ชีวิตอยู่บนถนน  

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)

 

 

รถทดสอบ  Suzuki Ciaz GLX

ราคาจำหน่าย 625,000 บาท

 

สิ่งที่ชอบ >>>>  การออกแบบที่ลงตัว การโดยสารที่สะดวกสบายและกว้างขวางได้ใกล้เคียงกับรถยนต์ระดับคอมแพ็คคาร์บางรุ่น ตลอดจนการเก็บเสียงที่ดีกว่าซีดานกลางบางรุ่น  ถือเป็นจุดเด่นของรถคันนี้ รวมถึงความประหยัดในการขับขี่ด้วย

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >>>  ข้อเสียเปรียบของ   Suzuki Ciaz  ในเมืองคือมันเป็นรถที่ต้องใช้ในเมืองแต่กลับไม่ประหยัดที่เท่าที่ควรในยามที่คุณนำมันขับขี่ในเมือง โดยเฉพาะในสภาวะที่มีการจราจรติดขัดอย่างสาหัส

 

สิ่งที่อยากให้มี >>>> อยากให้เพิ่มออพชั่นความหรูบางอย่างเช่น ไฟ   Daytime Running Light   ไปจนถึง ระบบ  Cruise control  , Paddle Shift   แต่ที่อยากให้พิจารณาอย่างเร่งด่วน คือหัวหมอนเบาะนั่งตอนหลังที่สามารถปรับสูงต่ำได้ รวมถึงเบาะหลังควรจะพับได้เช่นกัน

 

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >>> Suzuki  Ciaz   เป็นรถที่เกิดมาบนพื้นฐานของตัวตนที่ผสมสานอย่างลงตัวในการขับขี่ระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา หลายอย่างมีความลงตัวมากกว่าที่คืดเพียงแต่ต้องมีโอกาสที่จะได้สัมผัส ซึ่งถ้ามองข้ามความไม่ลงตัวในการขาดบางออพชั่นไปได้ ก็ถือว่ารถคันนี้ เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณ

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY1500]

5 เรื่องน่าสนใจ