Hands On : New 2014 Honda Jazz รุ่นที่ 3 ที่แตกต่างสปอร์ตสมบูรณแบบในสไตล์ซิตี้คาร์!!
- โดย : Autodeft
- 12 มิ.ย. 57 00:00
- 38,645 อ่าน
เราได้ลองแล้วในที่สุดกับ New Honda Jazz ใหม่ ตัวตนของรุ่นที่ 3 ที่ได้ความลงตัวในสมรรถนะการขับขี่มากกว่าทีคิด
สวย ..หล่อ ดูดี คำสามคำที่ผมให้ทันทีเมื่อเห็นรถยนต์ซิตี้คาร์คันใหม่ New Honda Jazz ตั้งแต่ที่มันเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการ และเชื่อว่าหลายคนน่าจะเห็นด้วยกับเรื่องการออกแบบที่ไม่ว่าใครก็โดนใจ จนหลายคนแห่แหนไปจอง New Honda Jazz ซึ่งในบางกระแสล้นทะลักไปถึงเดือนสิ่งหาคมโน่นแล้ว
กระแสความต้องการ New Honda Jazz ใหม่ ที่มียอดจองถล่มทลายนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในสายตา ส่วนหนึ่ง ก็อาจจะต้องยอมรับสถานการณ์เหตุบ้านการเมืองที่ดีขึ้นตามลำดับ แถม Honda Jazz ยังเป็นรถที่มีพร้อมการเปลี่ยนแปลงในวันเดียวกัน จนบางคนเรียกกันขำๆ สนุกๆ ในวงนักข่าวสายยานยนต์และนักทดสอบรถยนต์ว่า Honda Jazz รุ่น ปฏิวัติ ที่ดูเหมือน ฮอนด้า อาจจะไม่ปลื้มในเรื่องนี้เท่าไรนัก
นาย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ประจำเว็บไซต์ Autodeft.com
แต่ถ้า คำว่าปฏิวัติมันไม่ได้หมายถึงการเมืองล่ะ??? แต่หมายถึงตัวตนของรถที่มีความเปลี่ยนไป โดนใจตรงจุดมากขึ้น เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ตอบโจทย์ของรถที่ผ่านมากว่า 3 รุ่น ขายมาแล้วกว่า 5.2 ล้านคันทั่วโลก รุ่นที่ 3 มักจะเป็นรุ่นที่มีอะไรเพิ่มเติมเข้ามาสร้างความแปลกตาเสมอ
ที่จริง สารภาพบาปกับ Honda ตรงนี้เลยว่า วันเปิดตัวนั้นไม่ได้ไปเหยียบงานเปิดตัว ที่ไบเทค แต่เมื่อทันทีที่โลกโซเชี่ยล เริ่มเผยใบหน้า Honda Jazz ใหม่ ออกมาอย่างเป็นทางการ หน้าตาที่มีโหงวเฮ้งดีในรุ่นนี้ ทำให้ หลายคนที่เป็นสาวก Honda หรือ แม้แต่ ตัวผู้เขียนเองนั้นใจละลาย ราวกับพบเนื้องอก ..เอ้ย!! เนื้อคู่ ที่ตามหากันมานาน
นี่นับเป็นครั้งแรกที่พบตัวเป็นๆ ของ Honda Jazz ใหม่ หลังจากที่เพ้อฝันดูรูปมายาวนาน ด้วยการออกแบบที่มีเสน่ห์ลงตัวมาก ไม่ต้องบอก เชื่อว่าคำแรกที่คุณจะต้องตอบออกมา คงเหมือนกัน คือ “มันสปอร์ตมาก” ขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน
ปัจจัยหนึ่งนั้นคือปรัชญาการออกแบบใหม่ที่เรียกว่า Exciting H ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นทันทีที่เห็นรถ Honda Jazz ใหม่ ด้วยความโฉบเฉี่ยวภายใต้ความสปอร์ตที่จัดมาอย่างลงตัว ตั้งแต่ใบหน้าที่ให้ กระจังหน้าสีดำเงาแปลกแตกต่าง มีสไตล์ที่ดูทันสมัย ซึ่งเส้นสายที่ทางด้านหน้านี้ เรียกว่า Solid Wing Face ให้ความแตกต่างจากรถอื่นๆที่มีในตลาด ด้วยการเชื่อเส้นสายเข้ากับ ไฟหน้าที่ดูลงตัวในการออกแบบ พร้อมกับกันหน้าที่มาพร้อมช่องระบายขนาดใหญ่ บอกตอบในความลงตัว รวมถึงฝากระโปรงหน้า ที่เป็นคมสันเริ่มต้นเส้นสายที่เน้นความสปอร์ต
ความลงตัวจากด้านหน้าส่งสู่ด้านข้างผ่านเส้นสายที่ผ่านบานประตู สู่ด้านหลังที่มาพร้อมชุดไฟท้าย LED รวมถึงในรุ่น SV+ อย่างขับขี่กันในวันนี้ ยังมาพร้อมสปอร์ยเลอร์หลังขนาดใหญ่ บอกถึงความลงตัวทางด้านอากาศพลศาสตร์สูงสุด ฝาท้ายเกลาให้มีความลงตัว แอบลุคหรูนิดหน่อยด้วยคิ้วโครเมี่ยมท้าย และ ท้ายสุดมาพร้อมล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้ว มาพร้อมยาง 185/55 R16 ที่ดูมีความสปอร์ตมากขึ้นขนาดกำลังพอดี แต่ถ้า ไม่ได้คิดว่าจะซื้อในรุ่นนี้ รุ่นทั่วไปนั้น เป็นล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว มาพร้อมยาว 175/65/R15 ซึ่งอาจจะดูไม่สปอร์ตเท่าตัวท๊อป
ในรุ่นนี้ Honda Jazz ใหม่ปรับตัวตนในเรื่องขนาดขึ้นเล็กน้อย โดยคงความกว้างที่ 1,695 ม.ม. และความสูง 1,525 ม.ม. ของช่วงตัวรถเอาไว้ แต่ไปบวกความยาวขึ้นอีก 55 ม.ม. ทำให้มีความยาวรวมถึง 3955 ม.ม. รวมถึงปรับฐานล้อให้ยางขึ้นกว่ารุ่นเดิมอีก 30 ม.ม. จนยาว 2,530 ม.ม. เลยทีเดียว
ระบบกุญแจ Honda Smart key แนะนำเข้ามาเพื่อเบิกความทันสมัยที่มีความลงตัวมากกว่าในซิตี้คาร์รุ่นอื่น ที่จริงถ้าใครบอกว่า กุญแจที่ให้มาเป็นรถแบบสัมผัสนั้น มันต้องสัมผัสจริงจริง และ Honda พิสูจน์ข้อนี้ไว้อย่างชัดเจน ทันที่คุณจับมือจับประตูรถก็ปลดล็อกทันที และให้ความลงตัวด้วย ปุ่ม Push Start สีแดง ส่อแววความสปอร์ตมาตั้งแต่แรก
เครื่องยนต์เดินรอบเดินเบา ในสายตารอบๆในห้องโดยสาร Honda Jazz ให้ ลงตัวความสปอร์ตมากเสียจนไม่คาดคิดว่าจะมีราคาตามที่ประกาศออกมา การแนะนำภายในสีดำ ทำให้รถดุมีความลงตัวมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังใช้การตบแต่งตัดกับสีเงินที่ดุมีความลงตัวมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะที่ช่องแอร์ หรือบนพวงมาลัย
สำหรับใครที่กังวลว่า สีเงินจากการตบแต่งจะสะท้อนเข้าตา จากการทดสอบในสภาวะแสงอาทิตย์ทั่วไปนั้นในยามบ่ายก็ไม่เห็นว่ามันจะสะท้อนเข้าตาเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้จึงวางใจได้ แถมวิศวกรบอกว่าการตบแต่งนี้จะไม่สะท้อนแน่ เพราการออกแบบ ใช้กฎจากอเมริกา ซึ่งมีข้อบังคับในการมิให้มีวัสดุที่มีการสะท้อนแสงในการตบแต่ง
เบาะนั่งใน Honda Jazz เปิดตัวความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ถ้าเทียบ Honda City ที่เราเคยสัมผัสมา มันดีกว่าในเรื่องการโอบกระชับ ขนาดตัวเบาก็กลางๆ คนตัวใหญ่นั่งดี คนตัวเล็กนั่งสบาย ช่วงสะโพกจัดวางตำแหน่งลงตัวพร้อมกับพนักผิงหลัง
แต่ที่น่าเป็นห่วงนั้นเป็นที่นั่งทางด้านหลัง ซึ่ง ที่จริง Honda Jazz น่าจะรองรับที่นั่ง 5 ที่นั่ง แต่การออกแบบ ถ้าดูสังเกตให้ดี ดูเหมือนทางทีมวิศวกรจะพยายามให้มันเป็นที่นั่งสำหรับ 2 ที่ในการโดยสาร อาจจะเพื่อความปลอดภัย และปล่อยให้คนตรงกลางนั่งได้แบบประเดี๋ยวเดียว แต่ทางวิศวกรก็ยืนยันว่ามันนั่งได้แน่นอน ในขณะห้องเก็บสัมภารก มีพื้นที่มากขึ้น และเช่นเดิมพื้นที่ในห้องโดยสาร ยังปรับให้ตอบโจทย์ในการใช้งานได้ถึง 4 โหมด ได้ แก่ Utility mode , Long mode , Tall Mode และท้ายสุด Refresh โหมด ที่ปรับให้การพักผ่อนได้อย่างสบายในการใช้งาน
ตรงหน้าคนขับแนะนำมาพร้อมมาตรวัดเรืองแสง ลุคของมาตรวัดนี้มีความสปอร์ตมากกว่าที่แนะนำใน Honda City ตรงกลางมาตรวัด มีจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ ส่วนคนขับได้พวงมาลัย 3 ก้านให้ลุคสปอร์ตลงตัวมากกว่า
รวมถึงบนพวงมาลัยยังเน้นในการใช้งานต่างๆ ทั้ง audio Switch ทางด้านซ้ายมือและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control ทางขวามือส่วนปุ่ม Econ เน้นในความประหยัดย้ายลงไปทางด้านล่างขวามือ เล่นซ่อนแอบนิดหน่อย
ส่วนตรงกลางเป็นระบบความบันเทิง Advance Touch Audio แบบเดียวกับทีแนะนำใน Honda City เรื่องฟังชั่นการใช้งานนั้นก็เรียบง่ายไม่ยากเกินเข้าใจ ทำได้ ทั้งจิ้มทั้งรูด และยังสามารถเชื่อมต่อกับ สมาร์ทโฟน ผ่าน Bluetooth หรือช่องเสียบสัญญาณอื่นๆ เช่น USB , HDMI และ ใต้ล่างเป็นการควบคุมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
แอบเสียใจเล็กน้อยที่ใต้ฝากระโปรง Honda Jazz ในไทยนั้น เป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียงขนาด 1.5 ลิตร ในรุ่นใหม่นี้ยังเป็นเครื่องแบบแคมเดี่ยว ที่มีการปรับปรุงสมรรถนะมากขึ้น โดยปัจจัยหลักอยู่ที่การทำให้มันสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85 ได้มากขึ้น
ทางทีมวิศวกรบอกว่า Honda ได้ปรับปรุงสมรรถนะโดยเฉพาะในส่วนของ Valve ให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยวัสดุใหม่ของชุดวาล์วที่ว่านี้ ทำให้รถ Honda Jazz ใหม่ กลับมีพละกำลังลดลงกว่ารุ่นเดิมที่ 117 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิด 146 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที
แต่แม้เครื่องยนต์จะไม่ใช่ทีเด็ดเสียทีเดียวอย่างเราหลายคนอาจจะคาดหวัง เมื่อเคยอ่านสเป็คตัวนอกว่ามันมีเครื่องยนต์ 130 แรงม้า ทว่าในรุ่นนี้มาพร้อมระบบเกียร์ใหม่ CVT ซึ่งเป็นชุดเกียร์ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีล่าสุดของ Honda , Earth Dream และมันเป็นปัจจัยที่สำคัญในความแตกต่าง
อย่าแปลกใจถ้ารถจะขับดีขึ้น ยิ่งใครที่เคยผ่านมากับ Honda Jazz ตัวแรกที่เป็น CVT เหมือนกัน คงจะงง เล็กว่า ทำไม Honda ถอยพลังลงคลอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จกับระบบเกียร์ CVT จนเจนเนอร์เรชั่นที่แล้ว Honda ปรับไปสู่เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และงวดนี้ก็ CVT อีกแล้ว
วิศวกรบอกและยอมรับว่า ส่วนหนึ่งของการกลับมาใช้ CVT ก็เพื่อความประหยัดมากขึ้น แต่ถ้าใครที่เคยผ่านมือ CVT Honda ในเกียร์ Honda Jazz รุ่นแรกมาแล้ว ก็วางใจได้เพรา CVT เดิมนั้นเป็นแบบ clutch Type ซึ่ง ทำให้มีอาการกระตุกบ้าง แต่ในรุ่นใหม่การรับกำลังจากเครื่องยนต์เป็นชุด torque Converter แบบเดียวกับเกียร์อัตโนมัติทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันดี
ในแมทช์นี้เรารับไม้สองในการขับขี่ ขากลับ จาก some Where in ระยอง ซึ่งเป็นร้านเค้กในแถวนิคมพัฒนา กลับไปยังพัทยา ที่ตั้งต้นในการทดสอบ เมื่อทุกอย่างพร้อม Honda Jazz ใหม่ และเราก็พร้อมเดินทางกัน
หลายคนอาจจะตั้งข้อสงสัยข้อหนึ่งว่า พี่ๆ....มันเหมือน Honda City ใหม่ รึเปล่า และ ตอบตรงนี้เลย ว่าไม่เหมือนอย่างที่คุณคิด แม้จะต้องยอมรับว่า Honda Jazz & Honda City ใช้ แพลทฟอร์มเดียวกัน แต่สัมผัสได้ทันทีเมื่อเดินทางว่ามันไม่เหมือนกันในตัวตน
จริงอยู่ที่การพัฒนาบนแพลทฟอร์มเดียวกัน อาจจะทำให้มันมีความเหมือนกันบ่างในบางอย่าง แต่ Honda Jazz กลับให้ตัวตนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อเริ่มเดินทางตัวตนของ Honda Jazz ใหม่ ก็เริ่มโชว์ความสปอร์ตที่เข้มกว่า Honda City อย่างชัดแจ้ง ด้วยพวงมาลัย ที่ให้น้ำหนักมากกว่า Honda City เล็กน้อย เพื่อตอบโจทย์ในการคัดทิศทางที่มั่นใจมากขึ้นในยามที่ขับขี่
การปรับพวงมาลัยแบบนี้ ช่วยให้ Honda Jazz มีความแจ่มมากขึ้นในเรื่องของความสปอร์ตที่มีความลงตัวอย่างชัดเจน พวงมาลัยที่มีน้ำหนักมากขึ้นกลับดุเหวอและแปลกนิดๆ เมื่อมีช่วงฟรีนิดหน่อย เป็นดีเอ็นเอที่ติดตัวมาในความรู้สึกที่เหมือนกับพี่ชาย 4 ประตูของมัน
แต่เมื่อขับมาสักพัก หลุมบ่อบนถนนต่างจังหวัดที่ขาดการพัฒนาก็เริ่มต้อนรับในการทดสอบระบบกันสะเทือนใน Honda Jazz ซึ่งดูแล้ว โช๊คและสปริงแข็งกว่า แม้ใช้ระบบแม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า และ ด้านท้ายเป็นแบบทอร์ชั่นบีม เหมือนกัน
หากใน Honda Jazz วิศวกร ได้ออกแบบตัว Trailing Arm ให้สั้นลง ซึ่งพวกเขาvhkงไม่มีผลต่อการเซทติ้งของช่วงล่าง แต่ทำให้ห้องโดยสารมีการปรับตำแหน่งเบาะหลังดีขึ้น แต่เมื่อผ่านช่วงถนนขรุขระนั้น กลับพบอย่างชัดเจนว่ามีรถมีการกระเด้งกระดอนและตอบสนองต่อลักษณะผิวถนน
โช๊คและสปริงตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทำให้มันมีลุคของความเป็นสปอร์ตมากในตัวตน ซึ่งบางครั้งสำหรับคนที่มีอายุมากที่อยากจะได้ Honda Jazz ใหม่ มันอาจจะไม่ถูกใจนัก ด้วยความรู้สึกที่เด้งๆ ดึ๋งๆ เมื่อกระแทก ในบางจังหวะที่เจอถนนขรุขระมากอย่าง ก่อนถึงหน้าสนามพีระเซอร์กิต บ้างอาจจะรู้สึกไม่มั่นใจในการควบคุม แต่ถ้าคุณไม่สนใจเรื่องการกระเด้งกระดอนแล้วจัดการรูดกราวผ่านทางขรุขระจะรู้ทันทีว่า โช๊คและสปริงนั้นตอบสนองได้ย่างรวดเร็ว แม้จะออกไปทางกระดอนเล็กน้อยมากกว่าความนึบแน่นก็ตามที
และด้วยการลดจุดยึดโช๊คอัพ และ การนำบุชแบบ Fluid Sealing Type มาใช้ เมื่อขับกันจริงๆ ในช่วงถนนปกติรถจะดูนิ่งมากกว่ารุ่นเดิม และดูมั่นคงมากขึ้นในการเดินทาง รวมถึงในยามที่คุณต้องสาดโค้งด้วยความเร็วสูงรถก็ดูมั่นใจมากกว่า เรารู้สึกทันทีว่า Honda Jazz ใหม่ มีการปรับในเรื่องของจุดศูนย์ถ่วงรถให้มีระยะต่ำลง ช่วยให้มั่นใจมากขึ้นในการเข้าโค้ง
โดยวิศวกรให้ความกระจ่ายมากขึ้นว่า เกิดจากการสร้างถังน้ำมันให้มีความแบนลงมากกว่าเดิม และพื้นที่มีความกว้างมากขึ้นทำให้มีการกระจายน้ำหนักที่ดี และ การออกแบบแพลทฟอร์มใหม่ของ Honda Jazz ก็ตอบโจทย์ในเรื่องของแรงกระทำในยามต้องเลี้ยวไปมา ด้วยการออกแบบให้มีแรงกดทางด้านหน้า และมันดีพอในการเข้าโค้งที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ในช่วงโค้งยาวเข้าพัทยา โดยที่ไม่ต้องแตะเบรกเลยแม้แต่น้อย
ในด้านเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร นั้นต้องยอมรับว่ามันไม่ได้แตกต่างจาก Honda City ที่เราเคยสัมผัสมาแม้แต่น้อย แต่เมื่อช่วงล่างมีความแตกต่างก็ทำให้เรามีความสนุกในการขับขี่มากขึ้น โดยเฉพาะชุดเกียร์ CVT บล็อกนี้ มีความลงตัวในเรื่องการตอบสนองอัตราเร่งที่ดี กดเป็นมา และฉลาดพอในการดึงหรือเลือกตำแหน่งเกียร์ที่เหมาะสม ต่อสภาพการขับขี่
แต่ถ้าต้องการคิดเองทำเองในรุ่นท๊อปอย่างที่เราขับในการทดสอบนี้มันยังมาพร้อมระบบ Paddle Shift กดให้เปลี่ยน ปรับเลือกเองตามใจฉันตามความต้องการ และเมื่อได้ช่วงล่างที่มันใจในการขับขี่ ก็ทำให้คุณรู้สึกได้ในความสปอร์ต และไม่ต้องกลัวหลุดเพราะเครื่องยนต์บล็อกใหม่มาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัว VSA ในทุกรุ่น
ถึงหลายคนอาจจะยี้!! ที่ Honda Jazz รุ่นนี้ไม่ใช่ระบบ ดิสก์เบรก 4 ล้อ แต่กลับเป็นหน้าดิสก์หลังดรัม แต่เชื่อเถอะว่าเอาอยู่ เพราะ ในระหว่างการทดสอบที่ในระยะ 200 เมตร มี สิบล้อตัดหน้าออกจากทางด้านซ้าย ทำไงล่ะครับ !! ก็ต้องเบรกตัวโก่ง แถมต้องให้สัญญาณ เพื่อนสื่อที่ตามมาด้านท้าย ไม่ให้ตะบันเข้าดาก แต่งานนี้รอดสบายเพราะเบรก Drum ซึ่งสามารถลดความเร็วได้ดีกว่า แค่มันดูแล้วไม่เท่ห์เหมือนดิสก์ 4 ล้อ
ส่วนใครที่ไม่มั่นใจ วิศวกรเขาฝากมาบอกและยอมรับว่าพวกเขาอาจจะเปลี่ยนเป็นชุดเบรกหลังเป็นดรัมเบรกก็จริง แต่ก็มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่งเรามองว่ามีการตอบสนองที่ดีเมื่อใช้ความเร็ว รวมถึงในยามขับชิวเบรกก็นุ่มกว่า และถ้านับว่า Honda Jazz เป็นซิตี้คาร์ใช้งานในเมืองมากกว่าไม่เน้นทำความเร็วบ้าพลังบ่อยนัก มันก็เหมาะ แม้ว่าจะไม่เท่ห์ก็ตามที
สรุป ....สนใจก็ซื้อ อย่าได้ช้าใย ...
ไม่บ่อยนักที่เราจะบอกผู้อ่านว่า จงไปโชว์รูมถ้าท่านชอบ ...แต่นั่นคือสิ่งที่ผมจะบอก หลังจากที่ประมวลทุกอย่างหลังจากขับทดสอบ Honda Jazz เสร็จ เพราะนี่คือรถ ซิตี้คาร์ที่ดีที่สุดในขณะนี้ และ กล้าพูดว่าดีที่สุดตั้งแต่เคยสัมผัส Honda Jazz มา
แต่แม้ว่า Honda Jazz จะมีสมรรถนะที่ดี เรือนร่างที่โดนใจ แจ่มมากขึ้นในการออกแบบ รวมถึง ภายในที่ให้ความทันสมัยมากขึ้น ตอบความเป็นรถสำหรับวัยรุ่นยุคใหม่ ถือว่าทำมาได้โดนเป้าที่วางเอาไว้
เพียงแต่หากคุณเป็นคนที่มีอายุสักหน่อย อย่าหวังมากกับเรื่องการเก็บเสียงของ Honda Jazz ซึ่ง อาจจะมีเสียงลมบ้างเมื่อใช้ความเร็วสัก 110 ก.ม./ช.ม.ขึ้นไป รวมถึง ต้องยอมรับว่าในรุ่นท็อป ซึ่งมาพร้อมยาง Bridge Stone turanza นั้นแม้หน้ายางจะไม่ใหญ่มาก แต่เสียงตัวยางนั้นค่อนข้างดังนิดหน่อย สำหรับคอสปอร์ตถือว่ารับได้ แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนชอบสปอร์ตแต่อยากได้รถแฮทช์แบ๊คขับสบายๆ อาจจะไม่ถูกใจนัก รวมถึง เสียงแตรดูป้องแป๊ง!! ไปนิดในความรู้สึก
ในภาพรวม Honda Jazz ทำได้ดี กับราคาที่ตั้งมา ด้วยการออกแบบที่ลงตัว เลอค่ามากขึ้น ไปจนถึง สมรรถนะที่ดีกว่าด้วยความสามารถพลังงานทางเลือก และระบบช่วงล่างที่ทำให้ขับสนุกมากขึ้นกว่าเดิม และอย่างที่เขาบอกว่า เลข 3 คือ ที่สุดของหลายๆอย่าง Honda Jazz 2014 นั้นคือตัวตันที่แตก และมันปฏิวัติในความเป็นซิตี้คาร์ที่ขับสนุกและลงตัวต่อการใช้งาน ..
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ภาพโดย Honda
ขอบคุณอย่างสูง
คุณยอดชาย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Honda ที่เอื้อเฟื้อในการเชิญร่วมงานทดสอบ Honda Jazz ใหม่
ขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญ เข้าร่วมทดสอบ รถยนต์ Honda Jazz ใหม่
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY547]