ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ .... หนึ่งเรื่องที่ต้องรู้ก่อนเลือกคู่ใจคันใหม่
- โดย : Autodeft
- 3 ส.ค. 59 00:00
- 66,187 อ่าน
ทุกวันนี้เทคโนโลยีที่ทันสมัยล้ำหน้ากว่าใครกำลังเข้ามาจับใจบรรดาผู้ใช้รถยนต์ที่ต้องการความสะดวกสบาย แต่ในอีกด้านของการเพิ่มมูลค่ารถยนต์ใหม่ในตลาด บรรดาการตลาดก็เริ่มติดปลายนวมรถยนต์ใหม่ด้วยความมั่นใจในการขับขี่ที่มากบนทุกสภาวะเส้นทาง รถยนต์ใหม่หลายรุ่นเริ่มมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือก็มีเป็นรุ่นทางเลือกให้ลูกค้าได้จับจองกัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คำถามหนึ่งที่มักจะได้รับเสมอจากบรรดาเพื่อน ตลอดจนท่านผู้อ่านหลายคนที่ถามไถ่กันมา ก็หนีไม่พ้นว่า เราควรซื้อระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาหรือไม่ ในขณะที่บางคนอาจจะมองว่ามันเป็นของฟุ่มเฟือยไม่ได้จำเป็นในการใช้งานแต่วันนี้ ผมจะพาไปสำรวจว่า ประโยชน์ของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมีอะไร และสรุปมันคุ้มค่าหรือไม่ที่จะคบหามัน
จุดเริ่มต้นของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เชื่อหรือไม่ครับว่า มันมียาวนานกว่า 100 ปี แล้ว และเจ้าความคิดของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อนั้นมาจากประเทศอังกฤษ แล้วถุกปรับเปลี่ยนมาเรื่อยตามยุคสมัย และความต้องการของตลาด แรกเริ่มเดมทีรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อถูกสร้างขึ้นมาในวาระสำคัญคือเพื่อสนองตอบต่อการใช้งานในพื้นที่ทุรกันดาร และเพื่อการแข่งขัน โดยรถยนต์คันแรกที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นของ Spyker บริษัทรถยนต์จากเนเธอร์แลนด์ ในรถแข่งขึ้นเขาของพวกเขา แต่รถที่ถูกผลิตให้คนทั่วไปได้ใช้งานจริงเป็นของ Daimler ที่ผลิตเฉพาะให้ผู้ตั้งอาณานิคมใน นามมิเบียได้ใช้ในปี 1907 และพัฒนาต่อมาเรื่อย จนถูกใช้ในการทหารภายใต้ชื่อ Unimog Truck
แม้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อจะเปลี่ยนไปตามที่บริษัทรถยนต์เห็นสมควร แต่ท้ายสุดแล้วเมื่อเรามาผ่าพิสูจน์ดูระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้ในปัจจุบันจริงๆ เราจะพบว่า ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ติดตั้งในรถยนต์ปัจจุบันนั้นมี เพียง 3 ประเภท คือ
1. 4WD ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4WD หรือที่ชาวกระบะและออฟโรดเรียกว่า ขับสี่นั้น เป็นระบบดั้งเดิมที่ทำให้ขับเคลื่อนสี่ล้อเกิดขึ้น มันคือระบบที่สามารถใช้เอาชนะอุปสรรคเส้นทางการขับขี่แบบออฟโรดโดยมีจุดเด่น คือชุดเกียร์ที่สามารถปรับการทำงานระหว่างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและ 2 ล้อ ได้
2. Full Time Four Wheel Drive หรือที่เราเรียกว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา กำลังกลายเป็นระบบที่สร้างความสับสนให้คนจำนวนมากในปัจุบัน มันคือระบบที่เกิดจากความล้ำสมัยของทางเทคโนโลยี และความต้องการของบริษัทรถยนต์ในการสร้างรถยนต์ที่มั่นใจในการขบัขี่ได้ทุกเส้นทาง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาแตกต่างจากระบบ 4WD ดั้งเดิม คือ ชุดเกียร์ของมันจะไม่สามารถตัดเป็นระบบขับเคลื่อนสองล้อได้ และที่สำคัญกำลังในแต่ละล้อของรถจะถูกส่งไปเท่าๆกัน คือ 25% ในทุกชุดล้อ
อย่างไรก็ดีด้วยระบบที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน การขับเคลื่อนแบบ “Full time Four Wheel Drive (Full-Time)” จึงถูกพัฒนาไปสู่ก้าวใหม่ที่เรียกว่า “All Wheel Drive (AWD)” แต่ก่อนที่คุณจะสับสนว่าจะเรียกให้มันงงทำไม มากมายหลายชื่อ ข้อแตกต่างขอระบบ Full Time กับ AWD จุดแตกต่างของมัน ก็คือ ระบบ Full Time นั้นจะสามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่จะสามารถปรับการขับเคลื่อนให้พร้อมตอบสนองต่อการลุยได้ เช่น X-Mode ใน Subaru หรือ Terrain Management System ใน Ford Everest รวมถึงตำแหน่ง Lock ของ Nissan Xtrail
ขณะที่ในรถยนต์แบบ AWD จะไม่มีมาให้ได้ใช้กัน เนื่องจากระบบถูกออกแบบมาให้เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่เพื่อการเกาะถนนมากกว่า เช่น Quattro ของ Audi ส่วนฟังชั่นต่างเพื่อการขับขี่ที่มีประสิทธิมากขึ้นของระบบ Full time Four Wheel Drive ถ้าเทียบกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อดั้งเดิมแล้ว การถ่ายทอดแรงบิดในรอบต่ำจะไม่เทียบเท่า 4WD
นอกจากนี้ที่กล่าวไปแล้ว ภายใต้แนวคิดระบบขับเคลื่อน All Wheel Drive ทางทีมวิศวกรทั้งหลายยังสร้างระบบขับเคลื่อนที่สามารถทำงานได้ทันท่วงทีตามสถานการณ์ หรือที่เรียกว่า “System on demand” ซึ่งบางครั้งด้วยความต้องการสร้างความแตกต่างของแต่ละบริษัทรถยนต์ ระบบนี้จึงถูกเรียกแตกต่างออกไปว่า Real Time All Wheel Drive บ้างหรือ Intelligent All Wheel Drive บ้าง
หากส่วนที่สำคัญของระบบคือ คุณจะไม่มีโอกาสเลือกการทำงานของระบบได้ แต่ระบบจะเลือกเสกตัวเองว่าจะมาในสถายการณ์ใดเงื่อนไขใด ตามที่ทางทีมวิศวกรได้กำหนดเอาไว้ แนวทางของระบบลักษณะนี้ โดยมากจะอาศัยระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยในการส่งสัญญาณความเร็วแสงไปยังหน่วยประมวลผล เพื่อสั่งให้ถ่ายทอดกำลังไปยังชุดเพลาอีกชุด ในขณะที่รถกำลังเกิดการลื่นไถล เพื่อให้สามารถควบคุมการทรงตัวของรถได้
ระบบลักษณะนี้จึงมีข้อดีคือโดยทั่วไปมันจะขับเคลื่อนแบบสองล้อ และแปรผันเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เมื่อเกิดการลื่นไถล เพื่อให้รถอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ขับขี่ และเมื่อเหตุการณ์ปกติ รถจะกลับไปขับเคลื่อนสอล้อเหมือนเดิม ปัจจุบันระบบแบบนี้ พบในรถยนต์หลายรุ่น โดยเฉพาะรถอเนกประสงค์ จนบางคนสงสัยว่าเราจะจ่ายเงินมากกว่าซื้อระบบที่ขับขี่ไม่ต่างจากระบบขับเคลื่อนสองล้อทำไม หากแต่ด้วยความไม่ยุ่งยากของตัวระบบที่ต้องมานั่งควบคุมในการใช้งาน ตลอดจนมันยังประหยัดน้ำมันมากกว่าเมื่อเทียบกับระบบที่ขับเคลื่อนทุกล้อตลอดเวลา ทำให้รถยนต์อเนกประสงค์หลายรุ่นติดตั้งระบบลักษณะนี้ ที่จำเป็นต้องทดลองในสถานการณ์จริง จึงจะออกมาโชว์ศักยภาพในการทำงาน
3. IWD หรือระบบ Individual Wheel Drive น่าจะเรียกว่าเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เรากำลังจะได้เห็นในอนาคตมันเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถแปรผันกำลังการขับขี่ได้ตามความต้องการในแต่ละล้อ มันแตกต่างจาก AWD ในวุนนี้ ตรงที่กำลังจะถูกควบคุมด้วยการถ่ายทอดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าในทุกล้อ ซึ่ง ระบบแบบนี้กำลังอยู่ในการวิจัยพัฒนาของทีมวิศวกร
คุ้มที่จะซื้อไหม..ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
หลังจากทราบแล้วว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมีกี่ประเภท มีกี่แบบ ในการทำงาน มาถึงตรงนี้ ก่อนที่จะเคาะว่าเราควรจะซื้อมันมาใช้หรือไม่ ผู้เขียนขอสรุปเป็นตารางข้อมูลเพื่อทำให้ง่ายต่อความเข้าใจของท่านๆกันก่อนดังนี้
ตารางแสดงเปรียบเทียบการทำงาน และข้อดีข้อเสียของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแต่ละประเภท
|
4WD |
Full Time 4WD |
All Wheel Drive |
On demand |
สามารถเลือกการทำงานได้ |
เลือกเป็นได้ทั้ง ขับเคลื่อนสองล้อ และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ และในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อยังมีโหมด 4L (4 Low) เพื่อใช้การลุยทางทุรกันดาร |
ไม่สามารถเลือกเป็นขับเคลื่อนสองล้อได้ หรือ อาจจะเลือกได้ในเพียงรถยนต์บางรุ่น แต่สามารถเลือกลักษณะการถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อนสี่ล้อได้ เช่น ส่งกำลังหน้าหลัง 50/50 ในโหมด Lock หรือ มีระบบปรับเปลี่ยนตามพื้นที่ (Terrain Management System)และบางรุ่นอาจจะมีตำแหน่ง 4L |
ไม่สามารถปรับได้ |
ไม่สามารถปรับได้ |
ลักษณะการทำงาน |
ตามความต้องการผู้ใช้ |
ตามความต้องการผู้ใช้ |
ตามการทำงานของระบบ |
ตามเงื่อนไขการทำงานของระบบ
|
ข้อดี |
สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการผู้ใช้ได้ และสนองตอบในการใช้งานได้ทุกรูปแบบการขับขี่ ทั้งบนถนนทั่วไปและทางลุย |
ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และให้ความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น เนื่องจากรถจะมีอาการโยนตัวน้อยกว่า |
ให้ความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น เนื่องจากรถจะมีอาการโยนตัวน้อยกว่า |
ความรู้สึกในการขับขี่เหมือนระบบขับเคลื่อนสองล้อ และระบบไม่ยุ่งยากกับผู้ใช้งาน สร้างความประหยัดน้ำมันมากกว่า |
ข้อเสีย |
ต้องการการดูแลรักษาระบบมากกว่า |
กินน้ำมันมากกว่ารถทั่วไป และต้องการการดูแลรักษาระบบมากกว่า |
ไม่สามารถปรับคุณลักษณะในการทำงานได้ และมีการกินน้ำมันมากกว่า |
จะทำงานเมื่อถึงสถานการณ์จริงเท่านั้น |
รถที่มักติดตั้งระบบนี้ |
รถกระบะ และรถอเนกประสงค์จากพื้นฐานกระบะ |
รถอเนกประสงค์ ครอสโอเวอร์ |
รถเก๋งและรถอเนกประสงค์ |
รถอเนกประสงค์ |
จากตารางคุณผู้อ่านทุกท่านคงจะเริ่มเห็นข้อดีข้อเสียของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแต่ละประเภทกันแล้ใช่ไหมครับว่า มันมีดี- ด้อย แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
แม้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะมีความแตกต่างกันออกไปตามความคิดของแต่ละบริษัทและทีมวิศวกรที่ออกแบบรถยนต์คันนั้นๆ หากเราจะเห็นง่าข้อดีของมันที่เหมือนกันคือการตอบสนvงในการขับขี่ที่มากกว่า และถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีโอกาสจะได้ใช้พวกมันเพื่อการลุย ทว่าในอีกด้านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบนี้ก็มีกีที่การเกาะถนนมากว่าและกู้สถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของคุณให้มั่นใจได้ว่าจะอยู่ใต้อาณัติการควบคุมมากขึ้นกว่าเดิม
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อาจจะดูไม่ใช่ออพชั่นที่จำเป็นสำหรับใครหลายคน แต่เราต้องยอมรับว่ามันสร้างความแตกต่างในการขับขี่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าวันนี้ คุณมีงบประมาณซื้อรถยนต์ใหม่มากพอและชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ลองคบหารถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อดูแล้วจะรู้ว่าชีวิตแตกต่างได้อีก ...
มาติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
บรรณานุกรม
So, what’s the difference between ‘4-wheel drive’ and ‘all-wheel drive?’ -Digitaltrend