สิ่งที่ควรทำกับรถยนต์ของเราหลังกลับจากสงกรานต์
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 18 เม.ย. 60 00:00
- 32,254 อ่าน
หมดลงไปแล้วกับเทศกาลแสนสุขสันต์แบบหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ที่ดูแล้วปีนี้น่าจะมีการเดินทางออกไปต่างจังหวัดมากกว่าช่วงปีใหม่ เพราะจากที่ผู้เขียนอยู่โยงที่กรุงเทพฯ เห็นรถยนต์เหลืออยู่ไม่มากเท่าช่วงปีใหม่เลย แน่นอนว่าการใช้รถก็ต้องมีการใช้งานมากกว่าปกติ ก่อนเดินทางออกไปต่างจังหวัดก็เช็คไปรอบแล้ว แต่หลังกลับมาก็ยังต้องมีอีกบางอย่างที่ต้องทำกับรถยนต์ของเรา จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันครับ
ล้างรถ
สิ่งจำเป็นอย่างที่สุดที่ควรต้องทำอย่างแรกคือการทำความสะอาดหรือล้างรถเรานั่นเองครับ แน่นอนว่ารถเกือบทุกคันจะต้องโดนสาดน้ำปะแป้งในช่วงสงกรานต์มาทั้งนั้น เราเองก็ไม่รู้หรอกว่าน้ำที่สาดมานั้นสะอาดมากแค่ไหน แถมยังมาเจอแป้งดินสอพองที่สาด ลูบไล้ ประพรมอยู่บนสีรถของเรา นั่นแหละตัวการสำคัญที่อาจจะทำให้สีรถของเราเกิดอาการกระดำกระด่างได้หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน ดังนั้นควรต้องล้างเอาสิ่งเหล่านี้ออกไปก่อนซะดีกว่า ถ้าร้านล้างรถยังคิวยาวอยู่ อย่างน้อยก็เอาน้ำที่บ้านเราฉีดเอาแป้งออกไปก่อน น่าจะปลอดภัยกว่าครับ
ทำความสะอาดภายใน
หลายคนขับรถยนต์ไปเพื่อเที่ยวงานสงกรานต์ ไปออกศึกสงครามจนตัวเปียกแล้วขับหรือนั่งรถกลับบ้านเลยโดยยังไม่ได้เปลี่ยนชุด ดังนั้นจึงทำให้ในห้องโดยสารมีโอกาสที่จะเกิดการสะสมความชื้น ไม่ว่าจะบนเบาะหรือพรม จนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับภายในห้องโดยสารได้ ดังนั้นถ้าคุณทำพฤติกรรมแบบนี้ช่วงสงกรานต์ คงต้องหาเวลาเพื่อกำจัดความชื้นเหล่านี้ออกไปเสีย ด้วยการจอดรถตากแดดทิ้งไว้ เปิดประตูให้หมดทุกบาน แล้วเอาพัดลมมาเป่าเข้าที่เบาะหรือพรมซะ เท่านี้ก็จะช่วยลดความชื้นสะสมได้แล้ว แต่ถ้าอยากได้ความรวดเร็วและสะอาดหมดจด จะเลือกใช้บริการกับร้าน Car Care ที่มีการซักเบาะ พรม หรืออบโอโซนไปเลยก็ได้ ไม่ว่ากันครับ
เช็คน้ำหม้อน้ำ
เวลาเดินทางออกต่างจังหวัดพร้อมกันเยอะๆ สิ่งที่ต้องเจอแน่นอนก็คือเรื่องการจราจรครับ บางคนต้องเจอกับรถติดแบบมหาศาลมากกว่าการจราจรแถวสุขุมวิทช่วงเย็นด้วยซ้ำ เวลารถติดมากๆ หม้อน้ำจะต้องทำงานอย่างหนักมากๆ เพราะต้องคอยระบายความร้อนของเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา ยิ่งยามรถติดมากๆ เครื่องยนต์ยิ่งมีความร้อนสูง ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ทำให้น้ำเกิดอาการทะลักหรือระเหยหายไปจากหม้อน้ำได้มากกว่าการใช้งานปกติ ถ้าเป็นรถใหม่ๆก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ที่มักจะมีจุดซึมอยู่ตามท่อยางหรือข้อต่อต่างๆได้มากกว่า ดังนั้นหลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว วันรุ่งขึ้นก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมเปิดเช็คทั้งในตัวหม้อน้ำและหม้อพักด้วยนะครับ
เช็คลมยาง
หลังจากที่ได้บอกไปแล้วว่าก่อนไปวิ่งทางยาวต่างจังหวัด ควรเติมลมให้แข็งกว่าปกติซัก 3-5 PSI เพื่อลดความร้อนในยางยามที่ใช้ความเร็ว ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงกรุงเทพ ก็คงไม่ต้องพะวงเรื่องความร้อนสะสมในยางแล้ว ดังนั้นเอาลมยางออกให้อยู่ในระดับปกติ เพื่อให้หน้ายางได้สัมผัสกับพื้นถนนมากขึ้น จะได้ช่วยลดการลื่นไถลยามเจอถนนลื่น และเพิ่มความนุ่มนวลให้มาเป็นเหมือนเดิมได้ครับ
เช็คศูนย์ล้อ, ช่วงล่าง
ถนนตามต่างจังหวัดบางที่ก็ไม่ได้สวยงามมาก หลายแห่งยังเป็นลูกรังขรุขระอยู่ หรือเวลาเราวิ่งด้วยความเร็ว ก็อาจจะเจอกับหลุมที่เราคาดไม่ถึงได้อยู่เป็นประจำ ดังนั้นควรเอาไปให้ร้านเช็คศูนย์กับช่วงล่างซักหน่อย ว่าพวงมาลัยยังอยู่ตรงกลางไหม และช่วงล่างมีจุดไหนเสียหายหรือเปล่า ถ้าไม่มีอะไรเสียหายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพบจุดเสียหาย จะได้แก้ไขกันได้ก่อนมันจะเกิดอาการหนักขึ้นจนอันตรายได้ครับ
เรื่องแบบนี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทำกันไว้ก่อนดีกว่าครับ ไม่อย่างนั้นถ้าดันปล่อยไว้จนเกิดปัญหา จะเข้ากับคำสุภาษิตที่ว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย นะครับ
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com