รู้จริงเรื่องด่านตรวจ ..แบบไหนด่านลอย

ตามติดการตั้งด่านของตำรวจ รู้ให้ทันแบบไหนด่านลอย ที่คุณไม่ควรจะแคร์เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 

 

ทุกวันนี้การใช้รถใช้ถนนของคนในสังคมต่างถูกตราตรึงไปด้วยกฎต่างๆมากมาย ที่แม้จะมีให้ปฏิบัติ แต่หลายคนก็ยังละเลยกันอย่างต่อเนื่อง จนบ้างกลายเป็นนิสัยการขับขี่ที่ไม่ดีไปแล้วของสังคมไทย

การออกมาจัดการปัญหาต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผ่านการเข้มงวดกวดขันการขับขี่ด้วยการตั้งด่านสกัดหรือด่านตรวจนั้น เป็นสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่มักจะมีคำถามตามมาเสมอว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งจัดตั้งจุดตรวจหรือจุดสกัดนั้น แบบไหน ถือว่าเป็นด่านตรวจจริง ไม่ใช่การมาตั้งด่านจับกันเอง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ด่านลอย” ซึ่งเป็นพฤติกรรมหนังของการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แม้ว่าบางครั้งจะถูกกล่าวว่าเป็นการสุ่มตรวจของทางเจ้าหน้าที่ก็ตามที

[IMAGE1]

เมื่อเร็วๆ นี้ ประเด็น “ด่านลอย” กลายเป็นเรื่องที่สีกากีต้องลงมาดูอย่างเร่งด่วน เนื่องจากการเข้มงวดกวดขันกับประชาชนมากขึ้น ทำให้บางครั้งเจ้าหน้าที่อาศัยนโยบายกลายเป็นช่องทางทำมาหากิน และล่าสุดบทสรุปของการตั้งด่านตรวจ ถูก พลตำรวจเอก ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษาสัญญาบัตร ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงอย่างชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ว่า

การตั้งด่าน จุดตรวจ จุดสกัดที่ถูกต้องตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องมีการทำบันทึกถึงผู้บังคับบัญชาเป็นรายลักษณ์อักษร เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ และยังต้องปฏิบัติตามแผนงานที่ได้วางเอาไว้ ตลอดจนต้องมีการรับทราบจากหัวหน้าสถานีตำรวจ ตลอดจนผู้บังคับบัญชา ...

การตั้งด่านตรวจต้องมีเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า   5  คน ยืนประจำจุดตรวจ ตลอดจนมีการแสดงป้าย “จุดตรวจ” อย่างชัดเจน และมีการแสดงชื่อผู้ควบคุมด่านตรวจ ซึ่งจะต้องมียศตั้งแต่ร้อยเอกขึ้นไป เป็นผู้ควบคุมด่านตรวจดังกล่าว

อย่างไรก็ดีในกรณีตรวจจับตามเหตุฉุกเฉิน หรือมีเหตุซึ่งหน้า ทางผู้ปฏิบัติต้องแจ้งให้ทางผู้บังคับบัญชารับทราบ และเมื่อเสร็จภารกิจต้องแจ้งยกเลิก หากผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรืออ้างว่าไม่ทราบระเบียบแบบแผน จะต้องมีการพิจารณาโทษ หรือปรับย้ายทันที

แม้ว่าเราอาจจะเป็นเพียงประชาชนที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับตำรวจ แต่ด้วยเราต้องปฏิบัติตามกฎจากสีกากี การรู้เท่าทันว่า พวกขาตั้งด่านอย่างไร ก็ทำให้เรารู้ว่า เรากำลังโดนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือเปล่า

 

ที่ของข้อมูลมา  ไทยรัฐออนไลน์

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com