รู้เฟื่องเรื่องรถตัวร้อน .. ปัญหาที่เพียงรู้ก็แก้ได้
- โดย : Autodeft
- 24 มี.ค. 57 00:00
- 31,439 อ่าน
รู้ทันปัญหาเรื่องความร้อนก่อนเครื่องฮีท ทำอย่างไร จัดการ และป้องกันยังไง เบ็ดเสร็จที่นี่เลย
เรื่องโดย ดินน้ำมัน
ยิ่งรถเก่ายิ่งมีปัญหา อาจจะฟังดูเป็นเรื่องจริงที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ หนึ่งในหลายปัญหาที่พาชวนปวดเศียรเวียนเกลานั้นก็คงไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากการ ปัญหาเรื่องความร้อนที่มักจะพบง่ายยิ่งใครขับรถในเมืองบ่อย อากาศร้อนๆแบบนี้ แทบจะหนรีไม่พ้น
ปัญหาเรื่องความร้อนนั้นมีหลสากสาเหตุ แต่ทุกอาการจะนำไปสู่การเสียเงินทองจำนวนมากไม่ใช่เพราะระบบระบายความร้อนเพียงอย่างเดียวที่เป็นปัญหา แต่มันยังส่งผลถึงระบบการทำงานของเครื่องยนต์ที่หลายคนอาจจะไม่เคยคาดถึง
ทำอย่างไรเมื่อเครื่องร้อน ...
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นวิเคราะห์ปัญหาในเรื่องความร้อนนั้น เราคงต้องจัดการอาการเรื่องเครื่องร้อนหรือที่เราหลายคนเรียกว่าเครื่องฮีทกันก่อน เพื่อจะรับมือได้ถูก
ตามปกติแล้ว อาการเครื่องฮีท จะไม่เกิดขึ้นแบบกะทันหันปัจจุบันทันด่วน เว้นแต่เป็นคราวซวยว่าระบบเกิดทำงานผิดพลาดกะทันหัน ในระหว่างที่คุณกำลังขับขี่
[IMAGE1]
การสังเกตว่าเครื่องยนต์คุณมีอาการตัวร้อนหรือไม่ ให้สังเกตจากอุณหภูมิหม้อน้ำ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นเข็มไม่บอกตัวเลขอย่างชัดเจน แต่ให้คุรทราบเอาไว้ว่า ถ้าหม้อน้ำไม่มีปัญหาจะมีอุณหภูมิทำงานตามปกติที่ 85-92 องศาโดยประมาณ จะแปรเปลี่ยนบ้างตามค่าที่เหมาะสมของเครื่องยนต์ในรถแต่ละรุ่น
ตามปกติแล้วเข็มวัดความร้อนจะไม่มีการกระดิกจะนิ่งสนิทอยู่ที่ประจำ ซึ่งจะไม่เข้าใกล้ H ที่แทนมาจากคำว่า Hot มากเกินไป และจะไม่ต่ำเกินไป ซึ่งตามปกติแล้วเมื่อเข็มเข้าใกล้ H จะมีอุณหภูมิสูงถึง 120 องศา ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำจะระเหิดได้ทันที และจะเป็นจุดที่มีการตัดการทำงานเครื่องยนต์ทันที จากระบบควบคุมการทำงานเครื่องยนต์บางรุ่น
เมื่อคุณพบว่ามีอาการตัวร้อนสิ่งแรกที่ต้องทำ คือเข้าจอดโดยทันที โดยเริ่มชะลอความเร็วรถจากที่ขับอยู่ลง และ ให้สัญญาณไฟฉุกเฉิน เข้าจอดข้างทาง ในกรณีที่เห็นปั้มอยู่ไม่ไกลมาก ควรจะเดินทางไปที่ปั้มด้วยความเร็วต่ำมากๆ เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ เพราะจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า และหากไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ ก็ยังวางใจว่ารถคุณอยู่ในที่ซึ่งมีคนดูแล
และท้ายสุดหลังจากที่ถึงที่หมาย อย่าเพิ่งรีบร้อนในการเปิดฝาหม้อน้ำ ให้จอดรถทิ้งไว้สัก 15-20 นาที ก่อน เพื่อให้ความร้อนคลายตัวออกไปก่อน เมื่อดูว่าหม้อน้ำเริ่มเย็น จึงค่อยสำรวจ
อะไรคือปัญหาตัวร้อน
หลังจากจอดรถได้ ก็ถึงเวลาที่คุณจะสำรวจความเสียหาย โดยมาก อาการตัวร้อนมักจะมีไม่กี่สาเหตุที่เกิดขึ้น ที่เราพบได้ประจำ ที่พบบ่อยประการแรกเลย คือ อาการพัดลมไฟฟ้าเสีย หรือไม่ทำงาน ทำให้เกิดความร้อนสะสม และ ท้ายสุดหม้อน้ำก็เดือด
อาการพัดลมไฟฟ้าพังนี้ สามารถตรวจสอบง่ายที่สุด เพียงบิดกุญแจไปตำแหน่ง ON ในรถบางรุ่นอาจจะต้อง มีถึงกับบิดเครื่องสตาร์ท รวมถึงเปิดสวิทช์แอร์ด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ลองดูว่าเมื่อคุณทำทุกอย่างแล้วพัดลมมีการทำงานหรือไม่ ถ้าไม่ก็คงเป็นปัญหานี้แน่นอน
ในกรณีที่น้ำหายหมดอย่างแน่แปลกใจ อีกปัญหาที่พบบ่อย คือท่อยางหม้อน้ำเสื่อมสภาพ หรือ รั่ว บ้างอาจจะเกิดการฉีกขาด ในระหว่างใช้งาน ลองใช้มือบีบจับท่อน้ำดู ตรวจสอบร่องรอยต่างๆ บางทีปัญหาที่เล็กที่สุด เช่าเข็ดขัดรัดท่อยางเกิดกลับบ้านเก่าก็มีมาแล้ว
[IMAGE3]
ในกรณีที่ทุกอย่างดูปกติ น้ำในหม้อน้ำยังมี แต่หายไปบ้างบางส่วน ให้สันนิษฐานว่าเกิดจาก วาล์วน้ำตาย ซึ่งทำให้น้ำในเครื่องยนต์นั่นไม่ไหลวนเป็นปกติตามที่ควรจะเป็น ซึ่งอาการนี้คุณไม่สามารถตรวจสอบเองได้ เพราะต้องพึ่งช่างผู้ชำนาญการในการทำการตรวจสอบปัญหา
แต่ท้ายสุด นอกจากตรวจอาการหม้อน้ำแล้วอย่าลืมตรวจสภาพการทำงานเครื่องยนต์ว่ามีความผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ด้วย เริ่มแรกให้คุณดึงไม้วัดน้ำมันเครื่องตรวจสอบดูก่อนว่าเครื่องของคุณยังอยู่ดีหรือไม่ ถ้าพบว่า น้ำมันเครื่องมีลักษณะเป็นโคลน แสดงว่าฝาเครื่องโก่ง จนทำให้น้ำไปผสมน้ำมันเครื่อง ถ้าพบก็เรียกรถยกย่างเดียว ไม่ต้องขับเพราะจะเสียหายมากกว่า
ส่วนในกรณีที่รถคุณเกิดไม่สามารถสตาร์ทเครื่องได้ อาจจะเกิดจากอาการที่เรียกว่าสูบติด ซึ่งมีสาเหตุจากลูกสูบถูกความร้อนเป็นเวลานาน และมีการยายตัวจนชนปลอกกระบอกสูบ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ และนั่นคือคำตอบว่า ทำไมเครื่องยนต์จึงไม่สามารถทำงานได้
การดูแลหม้อน้ำเบื้องต้น
ไม่ว่ายังไงก็ตาม การดูแลรักษาระบบระบายความร้อนก็เป็นทางออกของการจัดการเบื้องต้นได้ โดย ก่อนอื่นคุณไม่ควรใช้น้ำประปาในการมาเติมน้ำหม้อน้ำไม่ส่าจะกรณีน้ำหาย หรือถ่ายน้ำหม้อน้ำ เนื่องจาก น้ำประปาจะทำให้เกิดสนิมได้ภายหลัง ที่ดูที่สุดผู้เชี่ยวชาญแนะให้เป็นน้ำกลั่นแบบเดียวกับที่เติมแบตเตอร์รี่ แต่ถ้าไม่สะดวกน้ำเปล่าที่เราดื่มทานยี่ห้อใดก็ได้ ที่ไม่ใช่น้ำแร่ สามารถใช้ทดแทนกันได้
[IMAGE2]
หลังจากนั้นให้คุณตรวจสอบสภาพของน้ำยาหล่อเย็นหรือที่ช่างบางคนเรียกว่าน้ำเขียว หรือเจ้า Coolant ว่ามีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เจ้าน้ำยาหม้อน้ำนี้เป็นส่วนที่สำคัญ ของระบบหล่อเย็น เพราะช่วยควบคุมอุณหภูมิดีกว่าน้ำ และมีจุดเดือดที่สูงกว่าเล็กน้อย ทั้งยังช่วยไม่ให้เกิดสนิมในระบบ
อย่างไรก็ดี ถ้าคุณใช้รถยนต์เป็นระยะเวลานาน จะพบว่า คูลแลนท์อาจจะมีสีที่ไม่เหมือนเดิม นั้นคือเวลาที่คุณควรเปลี่ยนคูลแลนท์ ซึ่ง โดยมีจะทำควบคู่กับการล้างหม้อน้ำ ซึ่งช่วยลดอาการอุดตันในครีบระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
แม้เราจะเป็นเพียงคนขับรถไม่ใช่ช่างซ่อม แต่คุณก็ควรรู้เรื่องรถไว้บ้าง โดยเฉพาะอาการหม้อน้ำ ระบบระบายความร้อนเจ้าปัญหาที่หลายคนหวาดหวั่น ทั้งที่จริงมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าคุณรู้ทัน ทุกเรื่องรถยนต์ก็แสนง่ายดั่งปอกกล้วยเข้าปาก
เรื่องโดย ดินน้ำมัน
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com