จอดรถและปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัยเมื่อรถเสียบนถนน
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 4 ก.ย. 61 00:00
- 12,531 อ่าน
ได้ยินข่าวกันอยู่เป็นประจำ ถึงอุบัติเหตุขับรถชนรถที่จอดอยู่ข้างทางจากอาการเสีย ทั้งแบบชนแค่ข้าวของเสียหาย หรือแย่จนมีคนเสียชีวิต แน่นอนว่าไม่มีใครหรอกที่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่มันก็ยังมีข่าวแบบนี้ให้ได้ยินอยู่เป็นประจำ เราลองมาดูกันดีกว่า ว่าถ้าเราเจอเหตุการณ์รถเสียบนถนนหรือทางด่วน เราควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเราได้ครับ
- จอดชิดข้างทางให้ได้มากที่สุด
ส่วนใหญ่ของอาการรถเสีย จะไม่ใช่แบบปัจจุบันทันด่วน ประเภทแบบไม่สามารถเคลื่อนที่รถได้เลย ส่วนใหญ่แล้วจะยังสามารถเคลื่อนที่ได้เอง เช่น ยางแตก, ความร้อนขึ้น เป็นต้น ถ้าเรายังสามารถพอจะขับรถเข้าข้างทางได้ ให้รีบทำทันทีครับ และการจอด ก็ควรชิดข้างทางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อไม่ให้ขวางทางรถคันอื่นที่ทำการสัญจรไปมาอยู่ แต่ถ้าอาการหนักจนรถดับไปเลย ก็คารต้องพยายามเข็นรถเข้าข้างทางให้ได้ เพราะการจอดเอาไว้กลางถนน ยังไงก็อันตรายอยู่ดีครับ ถึงแม้เราจะเปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้ก็ตาม ยกเว้นอาการจะหนักมาก ประเภทล้อหลุดจนขวางถนน, เบรกติด ก็ให้รีบเปิดไฟฉุกเฉิน, ลงจากรถไปอยู่ข้างทาง และรีบติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อหาทางนำรถออกจากถนนทันทีครับ
- เปิดไฟฉุกเฉิน ไฟหรี่
หน้าที่หลักของไฟฉุกเฉิน (หรือไฟผ่าหมาก, Hazard ก็แล้วแต่จะเรียก) คือเอาไว้เปิดตอนที่รถประสบเหตุฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อเตือนให้รถด้านหลังเห็นว่ารถเราจอดประสบเหตุอยู่ ไม่ได้เอาไว้เปิดเพื่อวิ่งตรงผ่าน 4 แยก ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำทันทีเมื่อรถเราเสียต้องจอดข้างทาง คือการเปิดไฟนี่แหล่ะให้คนอื่นได้ระมัดระวัง และเราก็ควรเปิดไฟหรี่ทิ้งเอาไว้ด้วย เพื่อให้ไฟสีแดงด้านท้ายติดขึ้นมา จะได้เพิ่มความชัดเจนในการมองเห็นจากระยะไกลครับ
- วางตัวเตือนไว้ก่อนถึงรถ 50 เมตร
ป้ายเตือนเหตุฉุกเฉิน ที่เป็นทรง 3 เหลี่ยมสะท้อนแสง ก็เป็นอุปกรณ์ที่เราควรจะมีติดรถไว้เช่นกัน ควรเป็นแบบที่ตั้งได้ ให้เอาป้ายนี้แหล่ะไปวางห่างจากรถที่ด้านหลังประมาณ 50 เมตร เพื่อเตือนให้รถที่มาจากด้านหลังได้ระมัดระวังว่า ข้างหน้ามีรถเกิดเหตุจอดอยู่นะ หรืออย่างน้อยถ้าคนที่ขับมาไม่ระมัดระวังชนเอากับป้ายเตือน จะได้ทำการกดเบรกก่อนที่จะถึงตัวรถ การปะทะก็อาจจะแปรเปลี่ยนจากหนักเป็นเบาได้ แต่ถ้ารถเราไม่มีป้ายเตือนเหตุฉุกเฉิน ให้หาสิ่งของอย่างอื่นแทน ที่มีขนาดมองเห็นได้ง่าย เช่นกระเป๋าเดินทาง, รถเข็นเด็ก, กระติกน้ำแข็ง เป็นต้น ไปวางไว้แทนครับ
- เปิดฝาท้าย
การเปิดฝาท้ายเอาไว้ เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการมองเห็นของตัวรถให้มากขึ้น ทำให้รถที่ขับตามมามองเห็นได้ง่ายขึ้น และในบางรุ่นก็มีป้ายเตือนเหตุฉุกเฉินติดเอาไว้ด้วย ทำให้เห็นชัดเจนมากขึ้น
- ไม่ยืนหลังรถ
เมื่อปฏิบัติตามข้างต้นหมดแล้ว เราอาจจะต้องใช้เวลารอเจ้าหน้าที่หรือช่าง มาทำการซ่อมหรือย้ายรถไปในจุดอื่น การรอนั้น ไม่ควรยืนอยู่ด้านหลังรถ ควรจะไปยืนในจุดอื่น ไม่ว่างจะเป็นข้างทางที่ห่างจากตัวรถ หรือถ้าไม่มี ก็ให้ยืนรอที่ด้านหน้าของรถที่อยู่ในระยะห่างพอสมควร เผื่อเอาไว้ในกรณีที่มีรถเข้ามาชนจริงๆ จะได้ชนแต่รถ ไม่ชนตัวเราเข้า จะได้ไม่เกิดอันตรายกับตัวเราเองครับ
- ห้ามเปลี่ยนยางเองบนทางด่วน
เรารู้กันอยู่แล้วว่า บนทางด่วนคือเส้นทางที่รถใช้ความเร็วซะเป็นส่วนใหญ่ การเปลี่ยนยางนั้น โดยเฉพาะยางด้านขวา จะต้องใช้พื้นที่ล้ำนอกตัวรถไปเยอะพอสมควร การที่เราไปนั่งยองๆอยู่ริมถนนที่กำลังใช้ความเร็วอยู่จึงเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง ดังนั้นถ้าหากเกิดเหตุยางแตกบนทางด่วน แนะนำให้เรียกเจ้าหน้าที่ทางด่วนมทำการช่วยเหลือดีกว่า เพราะอย่างน้อยรถของเจ้าหน้าที่ทางด่วน ก็สามารถช่วยจอดด้านหลังแล้วเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อช่วยเตือนรถคันอื่นให้ระมัดระวังครับ
ส่วนใหญ่แล้วการเกิดอุบัติเหตุขับรถชนรถที่จอดเสียอยู่ข้างทางนั้น ส่วนใหญ่ก็มาจากการขับรถด้วยความเร็ว และวิ่งบนไหล่ทางนี่แหล่ะ ดังนั้นสิ่งแรกที่ป้องกันได้ดีมากที่สุดก็คือ ไม่ควรขับรถไปบนไหล่ทางด้วยความเร็ว เพราะไหล่ทางมันเป็นที่เอาไว้เผื่อจอดรถในยามฉุกเฉิน ถ้าทุกคนปฏิบัติตามกฏจราจร เรื่องเศร้าก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นมาอีกแน่นอนครับ
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com