ต่างประเทศ เขาวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่เท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่า "เมาแล้วขับ"

แน่นอนว่า ประเทศบนโลกนี้ จะมีกฎหมาย “เมาแล้วขับ” ใช้งานอยู่ ประเทศไทยกำหนดให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดต้องไม่มากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีคำถามว่า แล้วประเทศอื่นเขาใช้กันที่เท่าไหร่บ้าง เราลองมาหาคำตอบกัน

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เรามาเริ่มจากประเทศเพื่อบ้านกันก่อน ว่าในแถบภูมิภาคบ้านเรา เขาใช้ปริมาณเท่าไหร่กันบ้าง โดยที่มีข้อมูลอยู่นั้น กฎหมายของแต่ละประเทศกำหนดเอาไว้ดังนี้

• บรูไน - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• กัมพูชา - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• อินโดนีเซีย - 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ลาว - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• มาเลเซีย - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ฟิลิปปินส์ - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• สิงคโปร์ - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เวียดนาม 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

เอเชีย-โอเชียเนีย
มาลองดูภาพกว้าง ๆ บ้าง ว่าเพื่อนบ้านในทวีปเดียวกันกับประเทศไทย เขากำหนดการ “เมาแล้วขับ” เอาไว้ที่เท่าไหร่บ้าง โดยจะเลือกมาแสดงเฉพาะประเทศที่คนไทยคุ้นเคยมาก ๆ เท่านั้น

• จีน - 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ฮ่องกง - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ญี่ปุ่น - 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เกาหลีใต้ - 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ไต้หวัน - 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• อินเดีย - 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• อิหร่าน - ห้ามดื่มทั้งประเทศ
• ซาอุดิ อาระเบีย - ห้ามดื่มทั้งประเทศ
• สหรัฐอาหรับ เอมิเรต - 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• อิสราเอล - 24 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ออสเตรเลีย - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (บางรัฐจะต่ำกว่านี้)
• นิวซีแลนด์ - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ยุโรป
มาดูทางฝั่งทวีปที่มีความก้าวหน้าทางการจราจรดูบ้าง ว่าแต่ละประเทศเขากำหนดมาที่เท่าไหร่กันบ้าง

• อังกฤษ - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• สก๊อตแลนด์ - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เดนมาร์ก - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ฝรั่งเศส - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เยอรมนี - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• อิตาลี - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เนเธอร์แลนด์ - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• นอร์เวย์ - 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• โปรตุเกส - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• รัสเซีย - 35 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• สเปน - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• สวีเดน - 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• สวิสเซอร์แลนด์ - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

อเมริกาเหนือ
มาดูฝั่งอเมริกากันบ้าง ว่าเขามีกฎหมายของการระบุว่า “เมาแล้วขับ” จากปริมาณแอลกอฮอล์กันที่เท่าไหร่บ้าง

• สหรัฐอเมริกา - ขึ้นอยู่กับรัฐ แต่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 50-80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• แคนาดา - ขึ้นอยู่กับแต่ละเมือง แต่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 40-80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เม็กซิโก - 40 - 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

อเมริกาใต้
ทางฟากฝั่งอเมริกาใต้ ตลาดใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ มีกำหนดระดับแอลกอฮอล์ที่นับเป็น “เมาแล้วขับ” ดังนี้

• อาร์เจนติน่า - 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• บราซิล - 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เวเนซูเอล่า - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• อุรุกวัย - 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เปรู - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ชิลี - 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

แอฟริกา
ประเทศในทวีปแอฟริกา ที่มีชนเผ่ามากมายรวมตัวกันอยู่ ก็มีกฎหมายเรื่อง “เมาแล้วขับ” ด้วยเช่นกัน โดยมีข้อกำหนดในแต่ละประเทศดังนี้

• แอฟริกาใต้ - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ไนจีเรีย - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• โมรอคโค - 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• ลิเบีย - 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เคนย่า - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• กาน่า - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• คองโก - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เอธิโอเปีย - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• อียิปต์ - 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
• เคนย่า - 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงประเทศตัวอย่างเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ทั้งหมดแทบจะไม่มีประเทศไหนเลยที่อนุญาตให้ปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากกว่า 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สามารถขับขี่บนท้องถนนได้ตามปกติ ดังนั้น ถ้าให้ดีที่สุด หากต้องการดื่มสังสรรค์ หรือโอกาสอื่น ๆ ก็ตาม แนะนำให้ใช้งานรถสาธารณะ หรือหาคนที่ไม่ดื่ม มาช่วยขับรถพากลับบ้านจะดีที่สุดแล้วครับ ถ้าไม่อย่างนั้นเกิดพลาดพลั้งขึ้นมา ไม่ใช่ตัวเราเท่านั้นที่จะเดือดร้อน แต่เพื่อนร่วมทางที่เขาไม่ได้กระทำผิดอะไร ต้องมาเดือดร้อนไปด้วยครับ

ข้อมูลจาก Wikipedia