9 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ เบรกรถยนต์

  • โดย : Autodeft
  • 21 เม.ย. 58 00:00
  • 18,321 อ่าน

เราทำกันบ่อย ..เราทำประจำ คุณรู้หรือไม่ เบรกรถยนต์มีอะไรมากกว่าแค่เหยียบให้หยุด วันนี้เรานำ 9 เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาบอกเล่าเก้าสิบกัน

 

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

คุณว่า ...การขับรถยนต์เขาเราๆท่านๆ อะไรเป็นสิ่งสำคัญ ...หลายคนอาจจะมองเรื่องของเครื่องยนต์ สมรรถนะ และช่วงล่าง แต่เชื่อไมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งหลายคนอาจจะลืมไปในยามขับรถก็คือ “การเบรก” และ 9 เรื่องที่เรานำมาฝากวันนี่ คุณ อาจจะไม่เคยรู้เกี่ยวกับมันมาก่อน

1. เบรกทางตรงดีที่สุด หลายคนคิดว่าการเบรกทำเมื่อไรก็ได้ ยิ่งทุกวันนี้ระบบเบรกถูกพัฒนาให้ตอบสนองได้มากขึ้น คุณสามารถหลบสิ่งกีดขวางเลี่ยงสถานการณ์เป็นตายได้ แต่หลายคนมักไม่ทราบว่าการเบรกรถที่ดีได้ประสิทธิผลมากที่สุด ...คือการเบรกทางตรงหรือฝรั่งเรียกว่า  Straight Line Braking   คือพยายามทำให้รถหยุดเมื่อพวงมาลัยตั้งตรง และเป็นเทคนิคที่นักแข่งรถในสนามมักจะใช้กันถ้าคุณพอจะสังเกตได้

 

2.ยางมีผลต่อระยะเบรกเสมอ จำไว้ว่าระบบเบรกเป็นการห้ามล้อ แต่ล้อจะหยุดจริงก็ต้องการแรงเสียดทานที่มากเอาการเพื่อปราบเหล่าแรงม้าที่คุณปล่อยออกจากปลายเท้าที่แตะคันเร่งของคุณ ซึ่งสิ่งที่ช่วยให้แรงเสียดทานมากในยามที่คุณเบรกก็คือยาง ซึ่งยิ่งยางมีดอกยางเยอะ และหน้าสัมผัสกว้าง โอกาสที่คุณจะหยุดรถได้เต็มประสิทธิภาพ ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย เรื่องเดียวกันไม่น่าแปลกใจที่คุณจะรู้สึกว่าเมือเปลี่ยนล้อแม็กมา รถหยุดดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าแต่งหล่อแค่ล้อและยาง ..

 

3.ระบบเบรก ABS  มีมาตั้งแต่ยุคเรือไทแทนิค เชื่อหรือว่าว่า ระบบเบรกที่เราคุณเคยอย่าง ABS  หรือ Anti Lock Brake  System  ที่เราคุ้นเคยมากในทุกวันนี้มันใช้เวลากว่า 50  ปี ก่อนที่จะเริ่มลงตลาดรถยนต์ และกว่าจะแพร่หลายจริงๆ ก็ราวๆ  80  ปี  จากที่คิดค้นครั้งแรกในปี 1920  ซึ่งมันถูกนำมาใช้กับอากาศยาน ก่อนที่ในปี 1970  ค่ายรถยนต์ในยุโรปบางเจ้าจะเริ่มแนะนำในรถยนต์ที่วางจำหน่ายจริงในตลาดยุโรป

4.เบรกรถไฮบริดดีกว่าทั่วไป ... หลายคนไม่เชื่อว่ารถยนต์ไฮบริดจะมีแรงเบรกที่ดีกว่าในการขับขี่ แต่นี่คือเรื่องจริงเมื่อมากกว่าแค่ไดนาโมที่ล้อชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอร์รี่ เพราะไดนาโมหรือมอเตอร์ฟ้าที่ใช้ในการชาร์จไฟนั้นจะมีแรงต้านของมันเองอยู่แล้ว ทำให้ในน้ำหนักเบรกที่เท่ากัน ระบบเบรกของรถไฮบริดจะทำงานได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ...มากพอที่จะรู้สึกได้

 

5.ดิสก์เบรกมีความร้อนสูงจนจุดบุหรี่ได้ ... หลายคนไม่เคยศึกษาเรื่องเบรกอย่างจริงจัง พวกเขารู้แค่เพียงว่าเบรกมีดีแค่หยุดรถ และเรารู้เพียงประเภทของเบรก รู้ว่ามันแค่ดีกว่า แต่ในแง่การใช้งานจริงแล้วดิสก์เบรกเป็นระบบเบรกที่มีความร้อนสูงมากมันสามารถมีอุณหภูมิในระหว่างการใช้งานตั้งแต่ 350 องศาเซลเซียสไปจนถึง   750   องศาเซลเซียส  มากพอที่คุณจะสามรถไม่ต้องพกไฟแช็คจุดบุหรี่ ถ้าขับรถซิ่งมากๆ

6.คนเรามักยืมเรื่องระยะทางเบรก มีบางคนประเภทหนึ่งชอบขับรถบี้ตูดชาวบ้าน พอชนท้ายเข้าก็โอดครวญเรื่องดวงไม่ดี ทั้งที่คุณขับรถไม่เป็น... การขับรถจี้ตูดนั้นเป็นพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่ออุบัติเหตุในระหว่างการขับขี่ของคุณเอง โดยเมื่อรถคันหน้าเบรก คุณจะต้องใช้เวลาในการทำให้เบรกคุณทำงาน ซึ่งก่อนอื่นต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า ประสาทสัมผัสของคนเราไม่เท่ากัน ไม่งั้นทุกคนคงเป็นไมเคิล ชูมาร์กเกอร์ กันหมดแล้ว ซึ่งหากคุณไม่ได้มีเหตุอะไรที่ต้องรีบมากมาย ทิ้งระยะห่างจากคันหน้าบ้างสักครึ่งคันรถก็ยังดี ...ช่วยเลี่ยงกรณีชนท้ายรถคันหน้าได้มาก

7.ดรัมเบรกมีประสิทธิภาพหยุดดีกว่าดิสก์เบรกจริงหรือ ทุกวันนี้สิ่งที่เริ่มจางหายไปในสังคมคงเป็นระบบดรัมเบรก จะยังมีให้เห็นก็แต่ในรถยนต์นั่งขนาดเล็กหรือรถกระบะและส่วนใหญ่จะประจำการที่เบรกหลัง ..ระบบดรัมเบรกเป็นรถแบบที่ใช้กันมายาวนานตั้งแต่อดีตราวๆปี 1902  เมื่อค่ายรถยนต์ Renault แนะนำออกสู่ตลาด ถ้าเทียบกับดิสก์แล้ว การกางผ้าเบรกออกพร้อมกันแล้วเพิ่มแรงเสียดทานทางด้านข้าง คล้ายกางแขนดันดุมล้อทั้งสองข้างพร้อมกัน ให้ประสิทธิผลที่ดีกว่าในการทำงาน แต่การที่มันอยู่ในฝักก็ทำให้มีความร้อนสูงมากเช่นกัน เมื่อเทียบกับดิสก์เบรก

 

8.เบรกมีเสียงคือเบรกหมด หรือใกล้หมด .. หลายคนมักจะมีคำถามว่าเราจะทราบได้อย่างไรว่าเบรกรถยนต์เราหมด หรือใกล้หมด ที่จริงแล้ว วิธีการนั้นง่ายมากมีสองวิธีคือ 1 .น้ำมันเบรกในกระปุกเริ่มพร่องหายโดยที่ไม่มีน้ำมันหยด สันนิษฐานได้เลยว่าคุณเตรียมเสียเงินเปลี่ยนผ้าเบรกได้แล้ว แต่ถ้าคุณเองก็ไม่มีเวลาอะไรขนาดนั้น ถ้าเมื่อไรขับรถแล้วเบรกปกติเริ่มมีเสียง ก็เมื่อนั้นแหละที่คุณต้องพบช่าง

9.รู้ไหมเมื่อก่อนจะเบรกรถเขาทำอย่างไร  ทุกวันนี้ที่เราขับรถเชื่อไหมว่าแม้รถคุณจะทันสมัยมูลค่ากี่สิบล้านบาท เรื่องของเบรกก็มาจากแนวคิดเดียวกันเมื่อสมัยร้อยกว่าปีที่แล้ว และมันไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย

ในสมัย..ยุครถยนต์ทำออกมาแรกๆ เบรกไม่ได้เป็นเบรกเท้า แต่เป็นเบรกโดยใช้คันโยก ซึ่งเมื่อต้องการจะหยุดรถคนขับจะกระชากคันโยกนี้แล้วส่งก้อนหรือท่อนไม้ไปสร้างแรงเสียดทานกับตัวดุมล้อ ซึ่งในปัจจุบันแม้จะมีความทันสมัยมากขึ้น เราใช้น้ำมันเป็นตัวช่วยผ่อนแรงในการเบรก แต่ทว่าเทคนิคและวิธีการกลับเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย ..คุณว่าจริงไหม

 

แม้ว่าโลกทุกวันนี้จะมีความทันสมัยไปมาก แต่บางทีการเรียนรู้สิ่งที่พื้นฐานที่สุดก็ยังกลายเป็นปัจจัยและองค์ประกอบสำคัญ และวันนี้เมื่อคุณรู้ลองประมวลความคิดแล้วนำมาใช้ในการขับรถของคุณดูเพื่อให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและปลอดภัยมากขึ้น

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

5 เรื่องน่าสนใจ