5 ความเชื่อผิดๆ ในการประหยัดน้ำมันของผู้ใช้รถชาวไทย

เชลล์เผย 5 ความเชื่อที่ผิดในการประหยัดน้ำมันของคนไทย ชี้ควรปรับปรุงอย่่าฟังเขาเล่าว่าเท่านั้น

 

 

ทุกวันนี้เราอาจจะต้องยอมรับว่าพวกเราหลายคนต่างมองที่จะหาทางทำความประหยัดในการเดินทางได้มากขึ้น หลายวิธีการถูกพูดถึง ถูกสั่งสอนจากผู้เชี่ยวชาญแต่เมื่อเร็วๆ นี้ กลับกลายเป็นความรู้ความเข้าใจที่เราอาจจะทำกันสืบมาอาจจะไม่ถูกต้อง เมื่อผลสำรวจจากบริษัทน้ำมันระดับโลก   Shell เผยเรื่องนี้และวันนี้เรามาดูว่าอะไรที่เราพลาดไปบ้าง

 

1. สตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ ก่อนการเดินทาง  เป็นความเข้าใจที่มีมายาวนานว่า การสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้เพื่อให้มีระดับอุณหภุมิต่อการขับขี่จะช่วยในความประหยัด ทั้งที่มันกลับผลาญน้ำมันอย่างประโยชน์ และการอุ่นเครื่องยนต์ทำได้ดีกว่า เมื่อคุณเริ่มเคลื่อนรถออกไปช้าๆ ในซอยบ้าน

2.  เปลี่ยนเกียร์ไปมา เรียกว่าสนุกสนานในการขับขี แต่หลายคนอาจจะไม่คิดว่าการเปลี่ยนเกียร์ไปมาบ่อยๆ นั้น จะทำให้รถสิ้นเปลือง อย่างที่เรารู้ว่า เกียร์ที่ดีที่สุดในการเดินทางคือเกียร์ตำแหน่งสูงสุด แต่ว่า การเปลี่ยนเกียร์ไปมา ไม่ว่าจะเกียร์ธรรมดา และรวมถึงการคิกดาวน์ในเกียร์ออโต้นั้น ต่างมีผลทำให้เครื่องเร่งรอบสูงและมันไม่ประหยัดน้ำมัน

 

3.  เติมน้ำมันตอนกลางคืน เพราะอุณหภูมิลดต่ำลง  เชื่อว่าเคยมีคนบอกคุณใช่ไหมเติมน้ำมันตอนกลางคืนคุ้มกว่าเพราะน้ำมันเย็นตัว แต่ความจริงแล้วแม้เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอยู่บ้าง ทว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องจากหัวจ่ายน้ำมันยังคงจ่ายน้ำมันเท่าที่คุณเติมไม่มีทางหรอกที่จะขาดหรือเกิน

4.  ไม่ดับเครื่องยนต์ ขณะจอดอยู่กับที่ ยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่ตระหนักในการขับขี่มากมายนัก เรามักติดเครื่องทิ้งไว้อย่างเปล่าประโยชน์ เพียงความสบายในการโดยสาร หรืออาจจะคิดว่าแปปเดียว ทั้งที่จริงแล้วทุกครั้งที่เครื่องยนต์ทำงานมันจะยังมีการจ่ายน้ำมันอยู่ดี และไม่ว่ามากหรือน้อย มันก็ยังคือน้ำมัน แล้วจะเรียกว่าคุณประหยัดได้อย่างไร

5.  เติมน้ำมันเพียงครึ่งถัง เพื่อลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ หรือเพื่อลดการระเหย บางคนเป็นเจ้าพ่อรถซิ่ง มักได้ไอเดียการเติมครึ่งถังเพื่อการที่ไม่ต้องแบกน้ำหนักอีกนิดหน่อยจากน้ำมันอีกครึ่งถังที่ไม่ได้ใช่ ความจริงของเรื่องนี้อาจจะมีส่วนถูกอยู่บ้างแต่ท้ายที่สุด สิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่ที่ความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ เพราะน้ำมันเต็มถังอาจจะมีน้ำหนักมากกว่าก็จริง แต่คุณก็จะใช้ได้ยาวนานกว่ามีความคุ้มค่ากว่า ที่สำคัญลดในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงค่าการตลาดที่คุณต้องเข้าไปเติมน้ำมันบ่อยๆ

 

 

บางทีเราคนไทยก็อาจจะเชื่ออะไรแปลกๆ เพียงเพราะต้องการหาทางออกทว่าในความเป็นจริงของการต้องการความประหยัดในการเดินทาง อาจจะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนบางพฤติกรรมการขับขี่หรือใช้รถ เท่านี้ก็ช่วยได้มากโขแล้วครับ

 

 

ที่มา งานวิจัยจากเชลล์  ประเทศไทย