3 ภูมิปัญญาไทยๆ... ในเรื่องรถยามฉุกเฉิน คุณอาจคาดไม่ถึง!!!

พาคุณงงกับที่สุดของ Thailand only เมือ่เราจับสามภูมิปัญญาไทยๆ ในเรื่องรถยนต์ยามฉุกเฉินมาพูดคุย รู้ไหม...ทำไมมันเป็นไปได้

 

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

กล่าวถึงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทุกวันนี้เราต่างใช้รถยนต์เพื่อสนองความต้องการแตกต่างกันออกไป แม้ว่าทุกวันนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายมาตอบสนองความต้องการของคนในสังคม และมีผู้ช่วยเหลือในยามฉุกเฉินต่างๆ นานา ทว่าในบางครั้งการเอาตัวเองรอดจากบางสถานการณ์ในยามจำเป็นอาจจ้ะองพึ่งความรู้ง่ายๆ แบบชาวบ้านๆ ซึ่งคุณเองอาจจะนำพวกมันเหล่านี้ไปใช้ก็ได้

 

1.ใช้มอเตอร์ไซค์ถีบรถเพื่อน หรือให้เพื่อนถีบรถให้ ..... เชื่อว่าเห็นกันบ่อยมาก เมื่อมอเตอร์ไซค์สองคันวิ่งตีคู่กัน แล้วคันหนึ่งใช้เท้าวางที่พักเท้าทางด้านหลัง หลายคนอาจจะคิดว่าสงสัยนักข่สองคันนี้อาจจะเป็นเพื่อนกัน แต่หลายครั้งคุรจะพบว่ามันเป็นเรื่อของน้ำใจในการช่วยเหลือมากกว่า

[IMAGE2]

 [IMAGE3]

ภาพจากกระทู้พันธทิพย์ pantip.com

การถีบมอเตอร์ไซค์เป็นภูมิปัญญาไทยง่ายๆ ที่ผมเชื่อว่าฝรั่งก็คงคาดไม่ถึง เมื่อนักขี่คันหลังใช้เท้าเป็นตัวนำพารถคันที่เสีย หรือน้ำมันหมด (ส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น)  ไปส่งยังปลายทาง โดยผู้ขับขี่รถคันหลังจะขับรถด้วยความเร็วคงที่แล้วค่อยๆดันรถคันข้างหน้าไปด้วยความเร็วเดียวกัน นับเป็นเรื่องที่คุณคงคาดไม่ถึง.... อย่างแน่นอน กรใช้กำลังแรงบิดจากเครื่องยนต์ส่งผ่านขาไปยังพักเท้าหลัง ทำให้เรื่องนี้เป็นไปได้ไม่ต่างอะไรจากคุณใช้เชือกลากรถ  และหากวิชาแก่กล้า คุณสามารถใช้วิธีเดียวกันนี้ในการยันรถยนต์ให้เคลื่อนไปข้างหน้าได้เช่นกัน... นะ ...

2.ขย่มรถเมื่อล้อฟรี ... เชื่อว่าชาวออฟโรดขาลุยทั้งหลาย คงจะผ่านเหตุการณ์นี้มามากแล้ว กับการติดหล่ม หรือบางครั้งบางโอกาส คุณพบว่ารถคุณไม่สามารถไปต่อได้ โดยเฉพาะรถกระบะกลุ่มขับเคลื่อนสองล้อทั้งหลาย

แนวคิดคือเมื่อมีน้ำหนักมากขึ้นรถจะมีการเกาะถนนมากขึ้นตามไปด้วยเป็นหลักการง่ายๆที่เชื่อว่าใครก็ทราบกันเป็นอย่างดี  แต่การขึ้นไปแล้วช่วยขย่มนั้น ตามคำบอกเล่าของผผู้ที่เคยผ่านระสบการณ์เช่นนี้คือมันช่วยให้รถมีจังหวะสัมผัสพื้นมากขึ้น และเมื่อรถยนต์สัมผัสพื้นมากขึ้นก็จะมีโอกาสใช้แรงบิดจากเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านอุปสรรค์ที่รถติดอยู่ หรือทำให้ล้อฟรีทิ้งไปได้ ...

3.เข็นสตาร์ท ถ้าคุณมีอีแก่เกียร์ธรรมดาที่บ้านหรือชอบรถคลาสสิคที่ไม่ได้รับการบำรุงรักษา เชื่อเลยว่า ทุกท่านคงน่าจะผ่านประสบการณ์ การเข็นสตาร์ทรถยนต์มาแล้ว แม้ปัจจุบันจะเห็นน้อยลงเพราะการใช้การพ่วงแบตเตอร์รี่เป็นวิธีที่ถูกต้อง แต่เราก็ยังคงจำมันอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

[IMAGE1]

การออกแรงขอมือขยันร่วมด้วยช่วยกันอออกกำลังกาย เข็นรถไปข้างหน้าจนได้ความเร็วในระดับหนึ่ง ก่อนที่คุณจะเข้าเกียร์เย่อคลัทบ์ พร้อมบิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ทำกันได้ทุกวัน แต่น่าแปลกที่แนวคิดสั้นๆง่ายๆ ว่า “เมื่อเครื่องยนต์ขับกำลังล้อได้ ล้อก็น่าจะขับกำลังเครื่องยนต์ได้เช่นกัน” กลายเป็นสิ่งที่คุณคาดไม่ถึง เพราะ พลังงานจลย์จากการเข็นรถของคุณเมื่อรถมีความเร็วระดับหนึ่งเมื่อคุณเข้าคลัทช์แล้วกระตุกคลัทข์สตาร์ทเครื่องยนต์ จากการเข็นสตาร์ทความเร็วที่มีมากพอในระดับหนึ่งจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ โดยที่คุณไม่ต้องอาศัยแรงขับจากมอเตอร์สตาร์ท ซึ่งเป็นเหตุผลที่คุณสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด ไม่ว่าจะไฟไม่พอ หรือ ไดสตาร์ท (Starter Motor)  คุณพังก็ตามที แต่รถเกียร์ออโต้จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ...

 

จริงๆ ผมเชื่อนะว่ายังมีอีกมากมายที่ทำให้เรานึกออกเมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน  หลายครั้งมันเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านแบบง่ายๆ ที่ทุกวันนี้เรายังสามารถนำพวกมันมาปรับใช้ได้กับรถคันเก่งของเราในยามที่คุณอาจจะต้องเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน

 

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง  Fan page ,Twiter (@nattayodc)