Eco Sticker ....ต่อไปนี้ รู้ชัดทันทีคันไหนคุ้มค่าถึงเนื้อใน ...
- โดย : Autodeft
- 17 มี.ค. 58 00:00
- 15,483 อ่าน
พาคุณรู้ลึกข้อมูล Eco Sticker มาตรฐานการให้ข้อมูลใหม่ล่าสุดของภาครัฐบาลที่บอกเลยว่า รถคันไหนมีดีอะไร ไม่ว่าประหยัด ปลอดภัย หรือจะรักษาสิ่งแวดล้อม
ทุกวันนี้เราต่างทราบกันดีว่ารถยนต์ที่เราซื้อหานั้น ต่างมีความสามารถในการใช้งานมากมาย ในขณะที่เราจำนวนมากสนใจในออพชั่นการขับขี่ พอๆ กับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่มันดูว่าแรงหรือไม่ แรง แต่ว่าเรื่องที่สำคัญ อย่างการประหยัดน้ำมัน การรักษาสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงเรื่องของความปลอดภัย เรากลับสนใจน้อย...มาก
ทำไม..เพราะอะไร คนไทย จึงไม่ใส่ใจในเรื่องสำคัญแบบนั้น แต่ไม่ว่าอะไรจะเป็นเหตุผล ต่อไปในอนาคต เราจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่เข้าใจง่ายในเรื่องของความประหยัด การรักษาสิ่งแวดล้อม ไปจนกระทั่งความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรจะทราบกัน โดยที่ไม่ต้องเดินไปเอ่ยปากถามเซลล์ หรือ ต้องรออ่านรีวิวรถยนต์จากสื่อมวลชนอีกต่อไป..
Eco Sticker เป็นไอเดียใหม่ล่าสุดที่ทางภาครัฐบาลใช้เวลาผลักดันในการทำงาน ด้วยความต้องการให้ประชาชนสามารถรับทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรถยนต์คันที่พวกเขาสนใจ โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอมีผู้ให้ข้อมูลรถยนต์คันนั้น ก่อนหน้าที่พวกเขาจะตัดสินใจซื้อมันมาขับขี่
แนวทางของเจ้าสติกเกอร์ให้ข้อมูลรถยนต์ใหม่ล่าสุด อันเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ไม่ต่างอะไรจากแนวทางเดียวกับ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่เราสามารถพบเห็นได้ตามเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน แต่นอกจากการบอกเรื่องอัตราประหยัดน้ำมัน แล้ว ยังมีเรื่องของการปล่อยไอเสีย ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจทันที เมื่อโครงสร้างภาษีรถยนต์แบบคิดตามอัตราการปล่อยไอเสีย หรือ ภาษี Co2 มีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า
โดยนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ในเจ้าตัว EcoSticker ยังบอกถึงมาตรฐานการทดสอบการชน ที่รถยนต์คันนั้น ผ่านตามข้อกำหนดการทดสอบความปลอดภัย เช่นการป่านมาตรฐานการชนทางด้านหน้า และการผ่านมาตรฐานการชนทางด้านข้าง รวมถึงระบุ ระบบช่วยในการขับขี่ อาทิระบบควบคุมการทรง,ระบบเบรกป้องกัน ล้อล็อค และกระจายค่าน้ำหนักแรงเบรกเป็นต้น
วิธีการอ่าน Eco Sticker ค่อนข้างง่าย ด้วยการใช้สัญลักษณ์เป็นสำคัญในการบ่งบอก แทนการอ่านข้อมูลทั่วไป โดยแบ่งภาคข้อมูล ออกเป็นสามส่วนสำคัญตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ได้แก่ การรักษาสิ่งแวดล้อม , ความประหยัด และท้ายสุดความปลอดภัย ซึ่งเพียงศึกษาเล็กน้อยก็สามารถอ่านข้อมูลได้อย่างเข้าใจ ประกอบการตัดสินใจซื้อรถได้ทันที
ส่วนแรก การปล่อยไอเสีย เป็นข้อมูลในส่วนของการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะบอกปริมาณไอเสียที่รถยนต์คันดังกล่าวไปในการขับขี่ ด้วยดัชนีชี้วัด เป็นหน่วยกรัม/กิโลเมตร ซึ่งในส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญ เพราะยิ่งน้อยก็ยิ่งมีผลต่ออัตราโครงสร้างภาษีใหม่ที่เก็บภาษีสรรพสามิตจากการปล่อยไอเสียนั่นเอง
ส่วนต่อมา คุณจะเห็นรูปหัวจ่ายน้ำมัน ..ตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจทันที ว่ามันคืออัตราประหยัดน้ำมันของรถยนต์คันนั้นๆ โดยในตัวเลขบนหัวจ่าย จะใช้หน่วยแบบ ลิตร /100 กิโลเมตร ก่อนที่จะมีการสรุปด้านล่างเป็นหน่วยแบบที่เราคุ้นเคย กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นการกล่าวในสภาวะรวมของการขับขี่
แต่ถ้าคุณมีความประสงค์จะดูตัวเลขที่เหมาะกับสภาวะการขับขี่จริงตามที่คุณน่าจะได้ใช้งาน จงเหลือบมองไปทางขวาอีกหน่อย จะพบว่ารัฐมีการบอกข้อมูลอัตราประหยัดที่บ่งลึกขึ้นไปอีก ระหว่างอัตราประหยักในสภาวะ ในเมือง และสภาวะนอกเมือง ซึ่งช่วยให้คุณทราบว่ารถยนต์คันไหน เหมาะกับชีวิตคุณมากกว่ากัน
และถัดลง มาจะพบว่ามีรูปปั้มอีกครั้งที่บอกค่าเดียวกับที่คุณเห็นไปแล้ว ตรงนี้จะเป็นการบอกปริมาตรของความประหยัด และถ้าในกรณีที่รถคันนั้นสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85 ได้ นั้น ก็จะมีการบอกอัตราประหยัดด้วย โดยจะเป็นรูปปั้มที่สอง แล้วกำกับด้วยชนิดเชื่อเพลิง พร้อมตัวเลขประหยัด แบบ ลิตร/100 ก.ม. เช่นกัน
ใต้ล่างลงมา Eco sticker บอกค่ามาตรฐานไอเสีย โดยแบ่งตามมาตรฐานที่รถยนต์คันนั้นผ่าน โดยแบ่งออกเป็นค่าตามมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือ มอก. และค่าตามมาตรฐานยุโรป หรือ Euro ซึ่ง มีการกำหนดค่าในตอนนี้ถึงมาตรฐาน Euro 6 และใช้วิธีการให้คะแนนในลักษณะการให้ดาว
แต่จะว่าไปแล้ว ท้ายที่สุด อีกส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากในตัว Eco Sticker นั้น คงจะหนีไม่พ้นความปลอดภัย โดยแบ่งข้อมูลออกเป็น มาตรฐานระบบเบรก หรือ Active Safety บอกสองข้อมูลสำคัญ ได้แก่ระบบช่วยเหลือในการขับขี่ที่ติดตั้ง และผ่านมาตรฐานในการทดสอบ หลักๆ จะบอกเพียง ระบบเบรก ABS และ ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control) เท่านั้น
สำหรับอีกส่วนที่มองดูแล้วค่อนข้างงงๆ เล็กน้อย ด้วยการแสดงกฎข้อบังคับ เป็นภารบ่งบอกการผ่านมาตรฐาน การทดสอบระบบเบรก อันได้แก่ UN R13 เป็นการทดสอบระบบเบรก สำหรับ รถตู้ รถบรรทุก และหัวลาก ส่วนใครที่จะซื้อรถยนต์นั่ง ให้ดูที่ UN R13H
ถัดมาในเรื่องของความปลอดภัย เป็นการบอกข้อมูล ทางด้านมาตรฐานการปกป้องผู้โดยสารจากการทดสอบการชน โดยแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญ ตามมาตรฐานการชน ได้แก่ UN R94 การผ่านมาตรฐานการชนทางด้านหน้า และ UN R95 การผ่านมาตรฐานการชนทางด้านข้าง แต่ไม่ได้บอกถึง จำนวนดาวที่ได้รับจากการทดสอบ
Eco Sticker นั้น เป็นข้อมูลส่วนสำคัญที่มีประโยชน์มาก สำหรับใครที่ตัดสินใจซื้อรถ ด้วยต่อจากนี้ คุณมีโอกาสในการเลือกซื้อเลือกหารถยนต์ที่คุณชอบ และใช่ตรงใจมากขึ้น เพียงแค่อ่านข้อมูลให้ครบและถี่ถ้วน เสียเวลาเล็กน้อย เพื่อมองหาความคุ้มค่า มากกว่าแค่ในโบรชัวร์ ... เชื่อเลยว่าท้ายที่สุดแล้ว เมื่อ สติกเกอร์แบบนี้อยู่ในรถยนต์ใหม่ ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ..คุณจะรู้เลยว่ารถยนต์คันไหนดีจริง ... จากเนื้อในไม่ใช่คำโฆษณา
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com