ทรวดทรงของรถ... แน่ใจหรือว่าคุณ รู้จริง

  • โดย : Autodeft
  • 4 ก.พ. 57 00:00
  • 22,541 อ่าน

พาคุณมาร้จักทรวดทรงรถยนต์ที่ขายทั่วโลก เคยสงสัยไหมว่า รถยนต์มีกี่แบบกัน!!

 

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรง

พูดถึงรถยนต์หลายคนคงมักจะพูดถึงเรื่องราวของเครื่องยนต์เป็นสำคัญ ไม่น่าแปลกใจ ที่เราหลายต่างชอบพูดถึงเครื่องยนต์ แต่แล้วกับทรวดทรงองค์เอวของรถล่ะ .. เคยคิดไหมว่า มันจะเรียกว่าอะไรมีแบบไหนบ้างและวันนี้ เราจะมาบอกเรื่องที่แม้แต่คุณอาจจะไม่เคยนึกมาก่อน

เรือนร่างของรถบอกถึงอะไรได้หลายอย่างหนึ่งในนั้น ก็คงไม่พ้นลักษณะและพื้นที่ใช้สอบของรถ แต่รถยนต์นั้นก็มีหลายรูปแบบมากมาย และ เชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่ารถที่ตัวเองขับ จริงๆ เขาเรียกว่าทรงอะไร

 

Sedan / Saloon ... ทรวดทรงนี้เราน่าจะคุ้นเคยกันอย่างดี มากกว่ารถทุกประเภทที่กล่าวมา ด้วยมันเป็นรถยนต์ที่คนไทยนิยมมากที่สุด รวมถึงหลายตลาดทั่วโลก และยังเป็นรูปแบบตัวถังของรถยนต์นั่ง รูปแบบนี้ จะมีการแยกส่วนของห้องโดยสารและห้องสัมภาระท้ายออกจากกัน แม้ปัจจุบัน จะสามารถปรับให้มีความสามารถมากขึ้น แต่กิจกรรมหลักของรถซีดาน คือการนั่งมากกว่า Sedan เป็นคำที่นิยมใช้ในอเมริกา ส่วนคำว่า Saloon นั้น นิยมใช้ทางยุโรป แต่ทั้งสองเหมือนกัน

Hatchback  น่าจะเป็นที่คุ้นเคยมากข้นในยุคนี้เพรามีการผลิตรถยนต์แบบนี้มากขึ้น นิยมมมากในพวกรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่างบ้านก็จำพวกอีโค่คาร์นั่นเอง  รถยนต์แบบนี้สังเกตได้ที่ส่วนใหญ่จะมี 5  ประตู ในลักษณะท้ายตัด  ซึ่คล้ายเอาฝามาปิด ทำให้มันถูกเรียกว่า  Hatchback  นั่นเอง ข้อดีของรถแบบนี้ คือ มันมีพื้นที่ในการโดยสารและบรรทุกของค่อนข้างมาก และสามารถปรับแต่งให้เหมาะการใช้งานที่หลากได้ตามต้องการ ที่สำคัญ ฝาท้ายส่วนใหญ่จะมักเป็นแบบเปิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานสูงสุด

อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน มีคำศัพท์ใหม่ขึ้นมา พูดถึงคำว่า  Hot Hatch ซึ่งเป็นศัพท์ที่หมายถึงรถยนต์นั่ง 5  ประตู ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สมรรถนะสูง และมีการปรับแต่งให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นกว่าเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ทุกวันนี้รถแบบนี้บ้านเราอาจจะไม่มีมากมายนัก แต่ก็เริ่มมีให้เห็นบ้าง เช่น  Volkswagen golf GTi

Station Wagon  เป็นข้อสงสัยของคนจำนวนมาก เมื่อพวกเขามาหารถยนต์สักแล้วพบว่า รถบางรุ่นถูกเรียกว่า Station Wagon  แทนที่มันจะพูดว่า Hatchback   ที่จริงมันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะรถแบบนี้มีมานานแล้ว แต่ก็มีความแตกต่าง

ถ้าพูดถึงรถยนต์นั่งอเนกประสงค์แบบสเตชั่นแวกอนแล้ว ความแตกต่างระหว่างมันกับรถ  hatchback ทั่วไป อยู่ที่การออกแบบ ซึ่งแม้จะมีความคล้ายคลึงกันมากแต่ประการแรกเลย เรามักเห็นทรงแบบนี้อยู่ในรถครอบครัว มากกว่าและส่วนใหม่ จะมีเสา D  เพิ่มเข้ามา เพื่อให้มีพื้นที่โดยสารหรือเก็บสัมภาระมากขึ้น และโดยส่วนใหญ่ มันจะเป็นทรงสำหรับรถยนต์นั่งแบบ  MPV

Fastback / Lift back พูดถึงรถยนต์แบบ  5  ประตู แม้ในปัจจุบันจะเห็นน้อยมาก แต่รถอีกประเภทที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก คือรถประเภท ท้ายลาด รถทรงท้ายลาดโดยมากจะเป็นการออกแบบที่ให้ความสปอร์ต ด้วยการเอาข้อดีของรถซีดานที่มีการออกแบบท้ายที่ลาดลง ซึ่งช่วยลดลมวนที่บั้นท้าย ช่วยให้มีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น

แม้รถท้ายลาดที่เราเห็นส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์สปอร์ตมากกว่า อย่างเช่น Toyota Celica  รุ่นล่าสุด หรือ Honda CR-Z แต่ในปัจจุบันมันถูกนำมาใช้ในหลายๆรุ่น มากขึ้น และมีการขยายสู่ทรงซีดาน แต่ปรับมันให้เป็นท้ายลาด ใช่เราคุ้นเคยมันอย่างดีใน Toyota Prius  และ  Mercedes Benz CLS Class

Coupe  มาดูทางฝั่งรถสปอร์ตบ้าง รถ 2  ประตู หรือ คูเป้ น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับใครหลายๆคน เพราะมันคือรถยนต์นั่งที่มีเพียง 2  ประตู  ซึ่งคำว่า  Coupe  นั้นเป็นภาษาฝรั่งเศสหมายถึง การตัด เราจึงมักเห็นรถแบบนี้เป็นรถสปอร์ตมากกว่า แต่กระนั้น แม้ใช้คำว่าสปอร์ตบางรุ่นก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างงตัว เพียงแต่ความสบายจะไม่เท่ารถซีดาน เหมาะกับคนที่เน้นรถที่มีสไตล์มากกว่าเอาไว้ขนเพื่อน

Convetible  พูดง่ายๆ คือ รถเปิดประทุน รถเปิดประทุนนี้เป็นรถที่มาสไตล์ของตัวเอง โดยมากแล้วจะสามารถเปิดหรือปิดหลังคาได้ โดยอาจจะทำงานด้วยกลไกจากมือ หรือจากระบบอัตโนมัติเพื่อพับเก็บหลังคา หรือ ปิดหลังคาเพื่อป้องกันฝ้าแดดและลมฝน

ข้อดีของรถคูเป้ คือมันเป็นรถที่ซื้อหนึ่งคันเหมือนได้รถสองคัน แต่ก็มักมีราคาแพงพอสมควรและในหลายครั้งมันจะเป็นรถสปอร์ตที่ผสานเข้ากับรถสไตล์โรดสเตอร์ที่เน้นในการขับขี่เพียง 2  ที่นั่ง

 

Targa  เมื่อไม่นานมานี้เราเพิ่งจะได้ยิ่งรถประเภทนี้อีกครั้ง หลังจา Porsche  เปิดตัว  Porsche  911 Targa  ที่ไม่ได้ขายมานานหลายสิบปี ในการเรียกรถคันไหนว่า Targa  มันเป็นสไตล์ที่ค่อนข้างเป็นปัจเจกมากด้วย เพราะมีความเป็นกึ่งรถเปิดประทุน หลังคาสามารถพับเก็บได้เช่นกัน แต่จะยังเสา B  และกระจก ด้านข้างและด้านหลังเอาไว้ เรียกง่ายๆว่าหายไปแต่ส่วนบนของหลังคาเหนือหัว

แต่หลายคนมักจะจำผิดและคิดว่าเหมือนกับ  T- Top  ซึ่ง  T- top นั้นคุณอาจเอาหลังคาออกได้ หรือ เอาออกเฉพาะตรงที่นั่งคนขับหรือคนนั่ง (ซ้าย/ขวา) แต่ตรงกลางจะยังเหลือคาน หรืออาจจะเป็นกระจกนิรภัยตรงกลาง เอาไว้ ซึ่งสามารถเห็นได้ใน Suzuki Capucino  และ  Toyota MR2

อย่างไรก็ดี ในแง่หนึ่งของ  Targa  มันเป็นรถที่จุดประกายให้เกิดหลังคาแก้วขึ้นในวงการยานยนต์ โดย  Porsche  ได้ใส่อกแบบเริ่มต้นใน Porsche 933 Targa  ก่อนจะมีการปรับปรุงต่อเนื่อง และนับเป็นจุดเริ่มของรถยนต์ที่มีพลังคาแก้ว ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน

 

จะว่าไปทรงรถนั้นมีมากมาย และพวกมันถูกออกแบบให้ตรงต่อการใช้งานของพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าวันนี่คุณกำลังมองประเภทไหน ทรงอะไร จำไว้ว่า จงมองรถที่เหมาะต่อการใช้งาน สวัสดี

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

ข้อมูลอ้างอิงจาก Wikipedia

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

พูดคุยเพิ่มเติมผ่าน [email protected]

FB http://www.facebook.com/nattayodc

 

 

5 เรื่องน่าสนใจ