ชม 90 วิ ต้นกำเนิดกระบะจอมโหด Ford Ranger Raptor ที่เมืองไทย

หลังจากที่ Ford Ranger Raptor เตรียมส่งมอบตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทำให้สิงห์รถกระบะชาวไทย ต่างดีใจกันทั่วหน้าที่จะได้เป็นเจ้าของที่สุดกระบะโหดสายพันธุ์มะกันในราคาเกือบ 1.7 ล้านบาท

และเพื่อความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อกระบะโหด ทาง ฟอร์ด เผยคลิ๊ปความยาว 90 วินาที เกี่ยวสายการผลิต Ford Ranger Raptor ตั้งแต่ จากแผ่นเหล็ก ปั๊มเป็นชิ้นส่วน เชื่อมต่อตัวถัง พน่สี จนมาถึงการประกอบขั้นสุดท้ายก่อนส่งมอบ โดยผลิตที่โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม จังหวัดระยอง ซึ่งโรงงานดังกล่าวได้ลงทุนไปทั้งหมด 6,269 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตทั้ง Ranger และ Ranger Raptor ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

Ford Ranger Raptor ผสมผสานดีเอ็นเอของ Ford Performance และสมรรถนะเหนือชั้นที่สะท้อนนิยาม “เกิดมาแกร่ง” ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยโลโก้ฟอร์ดแบบตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์บนกระจังหน้า ซึ่งสื่อถึงความดุดันของรถกระบะสายพันธุ์ใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี พร้อมกันชนหน้าที่ทนทาน สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด หรูด้วยชุดไฟหน้า HID ไฟเดย์ไลท์และไฟตัดหมอกแบบ LED บันไดข้างขึ้นรูปด้วยวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอย และ ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17 และฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift

เครื่องยนต์ใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เพื่อมอบขุมพลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า (157 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงถึง 500 นิวตันเมตร พร้อมช่วงล่างยกสูงขึ้นระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อค ทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น แม้ในระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูง

พร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX เพื่อซับแรงกระแทก พร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) สำหรับโหมดการขับขี่ทั้งหมด 6 รูปแบบ พร้อมโหมดบาฮา เหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแผงกันกระแทกด้านล่างอันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยปกป้องห้องเครื่องจากการกระแทก โดยผลิตจากเหล็กกล้า ที่มีความหนา 2.3 มิลลิเมตร และพวงมาลัยของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมกับแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำ

Ford Ranger Raptor มีสีภายนอกให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่พิเศษเฉพาะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ สีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และ สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) ในราคา 1,699,000 บาท

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com