Buying Guide: ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, 2 และ 3 แบบไหนที่ใช่ ..ในแบบตัวคุณ
- โดย : Autodeft
- 29 มิ.ย. 59 00:00
- 8,597 อ่าน
ย่างเข้าหน้าฝนแบบนี้ หลายคนที่ใช้รถกันเป็นประจำ คงจะทราบดีใช่ไหมครับ ถึงภยันตรายในการขับขี่ภายใต้ความชื้นแฉะที่อาจจะนำพาจนกลายเป็นอุบัติเหตุได้โดยง่าย ถึงเราจะเพิ่มความระมัดระวัง และตรวจสอบรถยนต์อย่างถี่ถ้นดี แล้วแต่ใครจะรู้ว่า อุบัติเหตุอาจจะเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเมื่อตลอดเวลา
ทุกวันนี้โชคดีที่เรามีบริการทำประกันภัยรถยนต์ และ การทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม มันช่วยได้มากในกรลดความเสี่ยงจากการจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาย ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งวันนี้หากใครยังไม่ได้ทำประกันภัยใหม่ หรือ ประกันภัยรถคู่ใจกำลังจะหมดวาระสิ้นสุดการคุ้มครอง ผมว่าได้เวลาแล้วที่เราจะมารู้จักประกันประเภทต่างๆ ที่มีขอบเขตในการคุ้มครองและราคาแตกต่างกันออกไป ตามความต้องการของผู้เอาประกันภัย
[IMAGE1]
ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 (ประกันภัยชั้น1)
ประกันภัยประเภทแรก เชื่อว่า หลายคนคงจะรู้จักกันดี กับการประกัยชั้นหนึ่ง ซึ่งการประกันภัยประเภทนี้ คือการคุ้มครองทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุจากการชนกับคู่กรณี หรือคุณอาจจะประมาทเลินเล่ในระหว่างการขบัขี่จนทำเอารถคู่ใจเสียหาย การประกันภัยรูปแบบนี้จะให้สามารถเรียกเคลมได้หมดทุกรูปแบบ และยังครอบคลุมไปถึงในกรณีที่รถถูกโจรกรรม และสุญหายอย่างไร้ร่องรอย ตอดจนความเสียหายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ เช่นกรณีน้ำท่วม เป็นต้น
ตลอดจนยังคุ้มครองได้โดยตรง ต่อบุคคลที่สามที่ได้รับความเดือดร้อนต่อการเกิดอุบัติเหตุขอคุณ และยังมีส่วนช่วยในการประกันตัวผู้ขับขี่ กรณีที่เกิดเป็นการดำเนินคดีชั้นศาลด้วย
ประกันภัยชนิดนี้เหมาะมาก สำหรับ คนที่มองหาความคุ้มครองที่ครอบคลุม ในทุกด้าน เป็นรถที่ใช้งานประจำทุกวัน ตลอดจนยังเหมาะสำหรับบรรดามือใหม่ทั้งหลายที่อาจจะเพิ่งฝึกหัดขับรถออกถนนด้วยเอง . มีไว้อุ่นใจกว่าอย่างแน่นอนครับ
[IMAGE2]
ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ (ประกันชั้น 2 พลัส)
ความต้องการที่หลากหลายนำมาสู่การประกันแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อเกิดบริการประกันภัยชั้น 2 ซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้น แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
ประกันภัยประเภท 2นี้เป็นการคุ้มครองที่คล้ายคลึงกับประภัยประเภทแรก หรื ประกันภัยชั้น 1 แตกต่างเพียงการรับผิดชอความเสียหาย จะครอบคลุมอุบัติเหตุในกรณีที่มีคู่กรณีในการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น โดยมากประกันภัยแบบนี้มัจะระบุว่าจะเคลมให้เฉพาะกรณีชนพาหนะทางบกด้วยกัน โดยจะรับผิดชอบความเสียหายต่อทรัพย์สินและของทั้งคุณ และทางคู่กรณี ตลอดจนบุคคลที่สามอย่างครบถ่วน แต่ต่างเพียงจะไม่คุ้มครองความเสียหยอื่ยๆที่นอกเหนือจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
พูดง่ายๆว่าถ้าคุณสะเพร่าเลืนเล่อ เฟอะฟะ ชนเสา ขูดกระถางต้นไม้ อะไรแบบนั้น ประกันชั้น 2 นั้นไม่รับเคลมเลยไม่ว่ากรณีใดๆ
และในกรณีที่คุณต้องการความคุ้มครองรถหายไฟไหม้ ก็สามารถซื้อประกันชั้น 2 บวก หรือ 2 พลัสได้ ซึ่งอาจจะมีราคาแพงกว่าบ้าง แต่ความคุ้มครองก็เกือบครบเท่าชั้น 1 ในหลายกรณี เรียกว่าเหมาะมากเลยสำหรับใครที่ใช้รถเป็นประจำ ต้องการคุ้มครองใกล้เคียงกับชั้น 1 แต่ต้องการจ่ายในราคาย่อมเยามากกว่า
ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 + (ประกันชั้น 3 พลัส)
ประกันชั้น 3 น่าจะรียกว่าเป็นประกันภาคสมัครใจที่มีความคุ้มครองต่ำที่สุด ในภาคประกันแบบสมัครใจ หรือนอกเหนือการคุ้มครองตามพรบ. ที่ทำระหว่างการต่อภาษีรถยนต์
ถึงหลายคนอาจจะคิดว่าปรันภัยไม่สำคัญ แต่อย่างน้อยที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเสียทรัพย์ยามภัยมา ประกันภัยชั้น 3 ควรมีติดรถไว้บ้าง มันมีราคาไม่แพงมากมายนัก แต่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นอันได้แก่ ผู้ขับขี่ลงนามและผู้โดยสาร และยังรับผิดชอบบุคคลที่สามและทรัพย์สินของบุคคลนั้น
หรือหากกล่าวให้ง่ายๆ เลยคือ คุณซ่อมรถคุณเอง แต่ประกันจะชดเชยและรักษาอาการบาดเจ็บคุณให้ ตลอดจนยังรับผิดชอบต่อคู่กรณี ในกรณีที่คุณถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายผิด ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ตลอดจนการคุ้มครองประกันภัยประเภทดังกล่าว จะไม่มีความคุ้มครองในกรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือได้รับความเสียหายจากการเกิดภัยธรรมชาติ
เป็นประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับรถที่มีอายุตั้งแต่ 7 ขึ้นไป ยังใช้ขับขี่ประจำ และไม่มีความเสียงในระหว่างการจอดรถ
สำหรับหลายคนประกันภัยรถยนต์อาจจะดูเป็นสิ่งที่ยุ่งยากวุ่นวาย โจทย์การทำประกันภัยรถยนต์มีเพื่อลดความเสี่ยงในการใช้งาน และวันนี้ถ้าสนใจลองเข้าไป ศึกษารายละเอียดรูปแบบการคุ้มครองประกันภัย แบบต่างๆ ตลอดจนลองตรวจสอบดูสิว่า คุณต้องมีเงินเท่าไร สำหรับค่าประกันภัยรถยนต์ในปีนี้
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com