อย่าคิดว่า เรื่องจบ...จอดรถคืนไฟแนนซ์ .....
- โดย : Autodeft
- 11 พ.ย. 59 00:00
- 14,343 อ่าน
ช่วงนี้จากหลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าหลายคนคงจะเห็นแล้วว่า เศรษฐกิจบ้านเราวันนี้ ไม่ได้ดีอย่างที่คิด ภาระหลายอย่างของหลายคน ถูกตราตรึงด้วยคำว่า “รถยนต์” อันแสดงถึงคุณค่าทางสังคม จนวันนี้กลายเป็นภาระอันหนักอึ้งแบกบนบ่าอยางไม่รู้ตัว
หลายคนที่ผ่อนรถ อาจจะเคยประสบภาวะสภาพคล่องมีปัญหาในการผ่อนค่างวดชำระรถยนต์กันบ้าง แต่ถ้าหลายๆงวดเข้า มันก็กลายเป็นภาระอันหนักอึ้ง จนคุณอาจจะรู้สึกว่าอยากจะเอามันไปให้พ้นๆ ..
ทุกวันนี้หลายคนมีความรู้มากขึ้นในการผ่อนรถยนต์ และพวกเราคงไม่อยากจะเห็นว่าวันหนึ่งรถที่เราใช้อยู่ ถูกขับออกไปต่อหน้าต่อตา หรือลงจากการทำธุระมาและพบว่ารถยนต์ที่รักหายไปแล้ว ... พวกมันไม่ได้โดนขโมย แต่พวกมันถูกนำไปโดยพลการจากบรรดาพนักงานทวงหนี้ของไฟแนนซ์ ในระยะหลังผมจึงเห็นกลยุทธ์ใหม่ของบรรดาสถาบันการเงิน พวกเขาตัดสินใจว่าจะใช้วิธีการละมุนละม่อมมากขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วก็ยังแยกเขี้ยวใส่ลูกค้าเหมือนเดิม กับคำที่ฟังดูดีว่า “จอดรถคืนไฟแนนซ์”
“จอดรถคืนไฟแนนซ์” เรียกว่าเป็นกระบวนการที่ทำให้ลูกค้าหลายคนได้คิดและยอมจำนนด้วยตัวเอง ก่อนที่จะเกิดเรื่องราวร้ายๆ กับชีวิต มันไม่ต่างอะไรจากการรับสารภาพความผิดว่าคุณไม่มีลู่ทางในการผ่อนรถยนต์ของคุณแล้ว และประสงค์จะไม่ผ่อนต่อไป และต้องการคืนให้บริษัทการเงินนำไปดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป เพื่อหมดภาระของคุณเอง
กระบวนการที่ฟังดูเรียบง่ายไม่ต้องลุ้นเกมโชว์แบบรายการปลดหนี้ ทำให้หลายคนต่างเริ่มหลงเชื่อย่างสนิทใจว่า การ “จอดรถคืนไฟแนนซ์” จะไม่มีปัญหาตามมา ทั้งที่ความจริงแล้ว มันกลับกลายเป็นการมัดมือชกตัวเองโดยไม่รู้มาก่อน
ก่อนอื่นคุณต้องทราบก่อนว่า รถใหม่เมื่อออกใหม่จากโชว์รูมมาแล้ว โดยมากจะมีราคาตกลงทันทีร้อยละ 15-20 % ตามแต่ยี่ห้อ และความนิยมของคนในสังคม นั่นเท่ากับ เมื่อรถคุณถอยใหม่หมาดๆ ออกมา ราคาขายของมันจะลดลงทันทีตั้งแรกเริ่ม
ในแง่หนึ่งของรถมือสองที่ถูกนำมาประมวลเสมอในการตั้งราคาจำหน่าย ก็ไม่พ้นระยะทางที่ใช้ในการวิ่ง มันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการกำหนดราคาขายที่เหมาะสม ซึ่งมีเรื่องของการบำรุงดูแลรักษาสภาพรถเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยมากไม่มีใครดูแลรถได้เต็ม 100% อยู่แล้ว แต่จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับการใส่ใจดูแลของแต่ละคน เป็นหัวใจสำคัญของการกำหนดราคาขายในตลาดรถมือสอง
หลายคนอาจจะสงสัย ทั้งหมด ที่กล่าวมานั้น เกี่ยวข้องอย่างไร กับ การจอดรถคืนไฟแนนซ์ ... มันเกี่ยวตรงที่ ราคารถที่ไฟแนนซ์จะนำออกไปขาย มักจะต้องต่ำกว่าท้องตลาดเสมอ ...
ทำไมราคารถที่ไฟแนนซ์ขายต่ำกว่าท้องตลาด เรื่องนี้มาจากกระบวนการขายรถของไฟแนนซ์ ที่มักจะอาศัยกระบวนการประมูลขาย ผ่านตัวแทนต่างๆ ทำให้พวกเขาลดค่าดำเนินการจัดการขายของ และไม่ยุ่งยากวุ่นวาย
หลังจากคุณจอดรถให้ไฟแนนซ์แล้ว โดยมากรถคุณจะถูกขายทอดตลาดในระยะเวลาไม่นาน โดยผ่านกระบวนการประมูล จากบรรดาบริษัทประมูลรายใหญ่ๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด
ตามหลักการประมูลแล้ว ผู้ที่ให้ราคามากที่สุดจะได้รถยนต์คันที่ประมูลไป แต่ที่หลายคนไม่ทราบคือการประมูลรถยนต์นั้น หาได้น้อยมากที่จะได้ราคาดี หรือมากกว่าตลาด เนื่องจากโดยมากผู้ที่เข้าร่วมประมูลนั้นก็คือบรรดาพ่อค้ารถมือสองทั้งหลาย ซึ่งหวังประมูลรถที่ได้ไปทำกำไรอีกทอดหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ประมูลจนถึงราคาที่พวกเขาขายได้ แต่จะประมูลเพียงถึงจุดที่พวกเขาคิดว่าคุ้มต่อการทำกำไร ซึ่งโดยมากจะประมาณ 80 -85% ของราคาจำหน่ายจริง ยกเว้นรถรุ่นนั้นกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
ดังนั้น เมื่อมาคำนวณให้ดี จะพบว่า ราคารถคุณเมื่อประมูลขายทอดตลาดแล้วจะเท่ากับ ราคารถที่จะขายได้ในตอนนั้น -20% หากแต่ในบัญชี้หนี้ที่คุณค้างติดไฟแนนซ์จะเท่ากับ ราคารถใหม่-เงินดาวน์-เงินค่างวดที่ส่งถึงจนกระทั่งไม่สามารถส่งได้
โดยมากแล้ว ตัวเลขนี้ในบัญชีไฟแนนซ์จะเป็นผู้ชนะเสมอ เพราะมันคือราคารถใหม่ ที่เป็นมูลค่าเต็ม แต่รถคุณเมื่อขายทอดตลาดแล้ว มูลค่าของมันจะเป็นมูลค่ารถมือสองที่เหลือก็ตามสภาพการใช้งานที่คุณใช้ และไม่ใช่ว่ารถทุกคันจะได้ราคาประมูลที่สูงอย่างที่เข้าใจกัน ..
ดังนั้น การจอดรถคืนไฟแนนซ์ สรุปได้เลยว่า คุณเสียประโยชน์แน่นอน แทนที่จะนำรถมาใช้เป็นประโยชน์ลองทำเงินในด้านต่างๆ
นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่คุณเสียรถเท่านั้น แต่ประวัติทางการเงินของคุณยังจะมีปัญหาตามมาด้วย เมื่อมียอดค่างวดค้างเกิน 90 วัน การแสดงผลในเครดิตบูโรคุณจะมีรหัสเปลี่ยนไป มันดูไม่ดี เมื่อคุณต้องผ่อนรถคันใหม่ หรือต้องการทำธุรกรรมด้านการเงินสินเชื่ออื่นๆ ตลอดจนท้ายที่สุดแล้วหาได้น้อยมากที่คุณจะรอดจากการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายทางแพ่ง เพื่อให้ชดใช้หนี้ที่คุณคงค้าง แม้ว่ารถจะขายทอดตลาดไปแล้ว
สรุป มีแต่คุณเท่านั้นที่เสียประโยชน์ ...ไม่ใช่ไฟแนนซ์
เมื่อไรก็ตามที่คุณผ่อนรถไม่ไหว ... ผมว่ายังมีวิธีการอื่นที่ดีกว่ายอดจำนน “จอดรถคืนไฟแนนซ์” เพียงแต่คุณอาจจะยังนึกไม่ออกถึงทางออกของปัญหา แต่คุณจะรู้ได้ ก็เมื่อลองปรึกษากับ พ่อ แม่ หรือ เพื่อนๆที่มีความรุ้ทางด้านการเงินมากพอ หรืออาจจะลองขายดาวน์ ซึ่งวันหลังผมจะมาเล่าให้ฟังครับ
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง Content Specialist - นักขับทดสอบรถยนต์ Autodeft.com ติดตามได้ที่ Facebook
ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่ www.Autodeft.com
หรือผ่านทาง Fanpage Facebook กดไลค์และ Follow ได้ที่ www.facebook.com/autodeft
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com